Eng
ไทย
เกี่ยวกับมูลนิธิ
หลักการและจรรยาบรรณ
ราคาประเมินค่าก่อสร้าง
บทความความรู้ข้อแนะนำ
เว็บบอร์ด
ติดต่อมูลนิธิ
การประเมินค่าที่ดิน ใต้แนวสายไฟฟ้าแรงสูง
 
อ.วสันต์ คงจันทร์
กรรมการและเลขานุการ มูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย

 

ที่ดินใต้แนวสายไฟฟ้าแรงสูง ปกติแล้วจะถูกรอนสิทธิโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งได้มีการจ่ายค่ารอนสิทธิกันคล้ายการเวนคืน แต่กรรมสิทธ์ยังเป็นของเจ้าของที่ดินอยู่ไม่ได้โอนไปเหมือนการเวนคืน

โดยที่ดินที่ตั้งอยู่ภายใต้แนวสายไฟฟ้าแรงสูงจะถูกรอนสิทธิ ตามประกาศการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เรื่อง ข้อกำหนดเขตเดินสายไฟฟ้า อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ.2511 กำหนดไว้ดังนี้
1. ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง อันเป็นอันตรายแก่ระบบไฟฟ้า เช่น ห้ามนำวัสดุ อุปกรณ์ หรือเครื่องจักรกล เช่น รถเครน รถยก รถตัก รถขุด เข้าใกล้สายไฟฟ้าแรงสูงน้อยกว่า 4.00 เมตร หรือ ห้ามเผ่าไร้อ้อย นาข้าว ป่าพง หรือวัสดุอื่นใดในเขตแนวสายไฟฟ้า
2. ห้ามปลูกสร้างอาคาร บ้านเรือน หรือ สิ่งปลูกสร้างอื่น ทุกชนิด ในเขตเดินสายไฟฟ้า
3. ห้ามปลูกต้นไม้ หรือพืชผล ในเขตเดินสายไฟฟ้า ดังนี้
3.1 บริเวณพื้นที่ที่ตั้งเสา และพื้นที่โดยรอบโคนเสา ภายในระยะห่างจากแนวขาเสา 4 เมตร ห้ามปลูกต้นไม้ หรือพืชผล ทุกชนิด
3.2 บริเวณพื้นที่ในเขตเดินสายไฟฟ้านอกจากข้อ 3.1 ห้ามปลูกต้นไม้หรือพืชผล ซึ่งเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่แล้วมีความสูงเกินกว่า 3 เมตร
3.3 บริเวณพื้นที่ในเขตเดินสายไฟฟ้า ของสายส่งไฟฟ้า ระดับแรงดัน 500,000 โวลต์ ห้ามปลูกอ้อย
4. กระทำการใดๆ เพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นดิน บริเวณพื้นที่ในเขตเดินสายไฟฟ้า เช่น การปรับสภาพพื้นดินให้สูงขึ้น การขุดดิน การขุดบ่อ การก่อสร้างถนน จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรการ กฟผ.ก่อน

โรงเรือนหรือสิ่งอื่นที่สร้างขึ้น หรือทำขึ้น ต้นไม้หรือพืชผล ที่ปลูกขึ้น โดยไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข หรือไม่ได้รับอนุญาต ให้ กฟผ.มีอำนาจรื้อถอน ทำลาย หรือตัดฟันตามสมควรแก่กรณีโดยไม่ต้องจ่ายค่าทดแทน

โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ได้กำหนดเขตการรอนสิทธิเป็นความกว้างของเขตสายไฟฟ้า ตามขนาดของสายส่งไฟฟ้า ไว้ดังนี้

ขนาดสายส่งไฟฟ้า
เขตรอนสิทธิ
  ระยะจากจุดกึ่งกลางเสาด้านละ รวมเขตเดินสายไฟฟ้า
69,000 โวลต์
9 เมตร
18 เมตร
115,000 โวลต์
12-25 เมตร
24-50 เมตร
230,000 โวลต์
20-25 เมตร
40-50 เมตร
500,000 โวลต์
35-40 เมตร
70-80 เมตร
ดังนั้นถ้าพิจารณาจากข้อกำหนดพื้นที่ใต้แนวสายไฟฟ้าแรงสูง จะเห็นว่าไม่สามารถก่อสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้างทุกประเภทได้ แม้แต่ปลูกพืชก็ปลูกได้เฉพาะพืชสูงไม่เกิน 3 เมตรเท่านั้น

เมื่อมีข้อจำกัดการก่อสร้างและการใช้ประโยชน์เช่นนี้ ก็จะส่งผลต่อราคาที่ดิน โดยในการประเมินค่าโดยทั่วไปแล้ว ผู้ประเมินมักจะไม่ทำการประเมินให้ เนื่องจากเห็นว่าแทบใช้ประโยชนไม่ได้แล้ว อย่างไรก็ตาม มูลค่าเมื่อมีที่ดินก็ควรมีอยู่ โดยเฉพาะที่ดินในเขตเมืองที่มีราคาที่ดินโดยทั่วไปสูง ที่ดินใต้แนวสายไฟฟ้าแรงสูงจะมีมูลค่าพอสมควร โดยผู้ประเมินจะพิจารณาจากการใช้ประโยชน์ ว่าจะสามารถทำอะไรได้ เช่น เป็นที่จอดรถ (เก็บเงิน) เป็นพื้นที่จัดสวน เป็นต้น

ซึ่งถ้าพิจารณาเป็นที่จอดรถ ถ้าเป็นที่ดินแถวรัชดาภิเษก-ห้วยขวาง ก็สามารถพิจารณาประเมินด้วยวิธีการรายได้ (Income Approach) เช่นเดียวกับการประเมินที่ดินภายใต้ระยะถอยร่น (Setback) 15 ที่แสดงรายละเอียดในคราวที่แล้ว ซึ่งได้มูลค่าที่ดินถึงตารางวาละ 10,000 บาท (จากราคาที่ดินปกติตารางวาละ 300,000 บาท) ประมาณ 3.3%

ส่วนในกรณีที่ดินในพื้นที่ชนบท โดยทั่วไปแล้วจะไม่ทำการประเมิน เนื่องจากศักยภาพการใช้ประโยชน์ ก็เพียงแต่สามารถปลูกพืช ไม่เกิน 3 เมตร เช่น ทำนา ปลูกผัก เป็นต้น แต่จริง ๆ แล้วการใช้ประโยชน์ดังกล่าวสามารถประเมินค่าได้เช่นกัน โดยการประเมินค่าจะพิจารณาประเมินด้วยวิธีการรายได้ (Income Approach)

เช่นที่นา ก็สามารถพิจารณามูลค่าจากค่าเช่าในการทำนาได้ ตัวอย่าง ที่ดินแถวบางบัวทองแปลงหนึ่งเนื้อที่ทั้งแปลงประมาณ 20 ไร่ แต่มี 5 ไร่ อยู่ภายใต้แนวสายไฟฟ้าแรงสูง โดยจากการสำรวจค่าเช่าทำนา ทราบว่าค่าเช่าประมาณปีละ 1,000 บาท/ไร่/ต่อปี สามารถประเมินได้ดังนี้

 
มูลค่าทรัพย์สินตามวิธีการรายได้ = รายได้สุทธิ / อัตราผลตอบแทน
รายได้สุทธิ = รายได้ต่อปี หลังหักอัตราว่าง (อาจมีบางช่วงไม่มีคนเช่า) และค่าใช้จ่าย
  = ค่าเช่าต่อปี (1,000 บาท/ไร่), อัตราว่าง 30%, ค่าใช้จ่าย 10%
  = 1,000 x (1-30%) x (1-10%)
  = 630 บาท/ ปี
อัตราผลตอบแทน = ผลตอบแทนในการลงทุนปลูกข้าวขายทั่วไป ประมาณ 5% ต่อปี
มูลค่า = 630 / 5%
  = 12,600 บาท/ไร่ (ถ้า 5 ไร่ เป็นเงินรวม 63,000 บาท)
เทียบกับที่ดินปกติประมาณไร่ละ = 500,000 บาท (ประมาณ 2.52%)
 
เมื่อพิจารณาสัดส่วน (%) กับราคาที่ดินปกติ จะเห็นว่ามีมูลค่าเพียง 2-3% เท่านั้น แต่ถ้าพิจารณาในเชิงปริมาณ ถ้าที่ดินในเมือง ตารางวาละ 10,000 บาท ก็จะมีมูลค่ามากเช่นกัน ก็ควรจะประเมินมูลค่า จะไม่ประเมินไปเลยก็คงไม่ได้ เพราะอย่างไรเสียที่ดินก็ยังมีมูลค่าอยู่ เพียงแต่ต้องพิจารณาให้ชัดเจนว่าที่ดินใต้แนวสายไฟฟ้าแรงสูง แต่ละแห่งจะทำประโยชน์อะไรได้เป็นสำคัญ
Area Trebs FIABCI
 
10 ถนน.นนทรี กรุงเทพมหานคร 10120 โทรศัพท์:66 2295 3171: โทรสาร: 66 2295 3994 Email: info@thaiappraisal.org   สถานที่ตั้ง: แผนที่