|
|
สรุปสาระข่าว |
|
นายพงษ์ธร
หิรัญบูรณะ อายุ 47 ปี ผู้ช่วยเจ้าพนักงานที่ดินระดับ
7 สำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต ถูกคนร้ายประกบยิง
เบื้องต้นมุ่งปมมรณะมาจากความขัดแย้งในการทำงาน
เนื่องจากผู้ตายเป็นคนตงฉิน ได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบการบุกรุกที่ดินสาธารณะของกลุ่มนายทุนทั่วเกาะภูเก็ต |
|
ข้อคิดเห็น |
|
ความตายของคนดี
หนักแน่นดุจขุนเขา ต่างจากคนโกงชาติ ความตายของคนเหล่านี้
ไร้ค่า เบาหวิวเช่น ขนนก ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวและญาติมิตร |
|
รายละเอียดของเนื้อข่าว |
|
จากคดีนายพงษ์ธร หิรัญบูรณะ
อายุ 47 ปี ผู้ช่วยเจ้าพนักงานที่ดินระดับ 7 สำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต
ถูกคนร้ายประกบยิง ขณะขับรถปิกอัพ โตโยต้าไทเกอร์สีแดง
หมายเลขทะเบียน บธ 4478 สุราษฎร์ธานี ออกจากบ้านพักที่
จ.ภูเก็ต เพื่อกลับไปเยี่ยมครอบครัวที่ จ.สุราษฎร์ธานี
กระสุนถูกกกหูขวา 1 นัด ตายสยอง ทำให้รถพลิกคว่ำ
ชนต้นไม้ข้างทางพังยับเยิน เหตุเกิดบนถนน สายพระแสง-ปลายพระยา
กม.33-34 หมู่ 4 ต.บางสวรรค์ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี
เมื่อเวลา 01.10 น. วันที่ 26 เม.ย. ที่ผ่านมา
เบื้องต้นมุ่งปมมรณะมาจากความขัดแย้งในการทำงาน
เนื่องจากผู้ตายเป็นคนตงฉิน ได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบการบุกรุกที่ดินสาธารณะของกลุ่มนายทุนทั่วเกาะภูเก็ต
มีการตรวจสอบการทุจริตออกเอกสารสิทธิแล้ว 10 แปลง
อาจทำให้กลุ่มผู้เสียประโยชน์ชิงลงมือฆ่า ก่อนที่จะมีการสืบสาวกระชากโฉมหน้าผู้เกี่ยวข้องการฮุบที่ดินนั้น
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 27 เม.ย. พล.ต.ต.มาโนช ไกรวงศ์
รอง ผบช.ภ.8 พร้อมด้วย พ.ต.อ.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผกก.สส.ภ.8 เดินทางไปที่ จ.ภูเก็ต
เข้าพบนายพงศ์โพยม วาศภูติ ผวจ.ภูเก็ต เพื่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับนายพงษ์ธรผู้ตาย
ใช้เวลา 2 ชั่วโมง จากนั้นจึงเดินทางไปที่เกิดเหตุบนถนนสายพระแสง-ปลายพระยา กม.33-34
เพื่อสมทบกับนายบัญญัติ จันทน์เสนะ อธิบดีกรมที่ดิน และคณะ ซึ่งเดินทางมาตรวจจุดเกิดเหตุ
มี พ.ต.อ.นรินทร์ ดีมี ผกก.สภ.อ.พระแสง นำชี้และรายงานผลการสอบสวนเบื้องต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จุดที่คาดว่าคนร้ายประกบยิงนายพงษ์ธรผู้ตาย
เป็นทางขึ้นเนินอยู่ห่างจากจุดที่รถพุ่งชนต้นไม้ราว 100 เมตร เนื่องจากตำรวจเก็บปลอกกระสุนปืน
9 มม. ได้ 1 ปลอก โดย พ.ต.อ.นรินทร์ ดีมีผกก.สภ.อ.พระแสง รายงานต่ออธิบดีกรมที่ดินว่า
คนร้ายน่าจะแบ่งการทำงานเป็น 2 ชุด ติดต่อกันด้วยโทรศัพท์มือถือ ชุดแรกติดตามผู้ตายมาจาก
จ.ภูเก็ต ส่วนอีกชุดดักรออยู่ใกล้เนินดังกล่าว กระทั่งผู้ตายขับรถผ่านมาและชะลอความเร็วขึ้นเนิน
จึงขับรถยนต์ประกบทางด้านขวา ซึ่งรถที่คนร้ายใช้น่าจะเตี้ยกว่ารถของผู้ตาย แล้วยิงใส่ด้วยปืน
9 มม. ถูกกกหูขวาตายคาที่ ทำให้รถพุ่งลงข้างทาง
ต่อมา พล.ต.ต.มาโนช ไกรวงศ์ พร้อมชุดสืบสวนสอบสวน และนายบัญญัติ
จันทน์เสนะ อธิบดีกรมที่ดิน ได้เข้าประชุมที่ สภ.อ.พระแสง นานร่วม 1 ชั่วโมงจากนั้น
พล.ต.ต.มาโนชได้เปิดเผยว่า ได้ตั้งประเด็นสังหารไว้ 2 ประเด็น คือเรื่องงาน และเรื่องส่วนตัว
ผู้ตายเป็นคนทำงานดี มือสะอาด อาจจะมีผู้เสียผลประโยชน์อยู่บ้าง ซึ่งตำรวจยังให้ความสำคัญในทุกประเด็น
และจากการเข้าพบ ผวจ.ภูเก็ต ได้ข้อมูลที่พอเป็นแนวทางสืบสวน เชื่อว่าจะเป็นสาเหตุการสังหาร
และได้ส่งชุดสืบสวน กก.สส.ภ.8 เข้าพื้นที่ จ.ภูเก็ต และนครศรีธรรมราช เพื่อสอบปากคำเพื่อนร่วมงานและครอบครัวผู้ตาย
ส่วนคนร้ายเชื่อว่าเป็นมืออาชีพอยู่ในพื้นที่ภาค 8 แต่จะเป็นกลุ่มไหนยังบอกไม่ได้
เพราะขาดพยานหลักฐานยืนยัน ซึ่งจะต้องรื้อแฟ้มมือปืนรับจ้างของตำรวจภาค 8 มาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ทางด้านนายบัญญัติ จันทน์เสนะ อธิบดีกรมที่ดิน กล่าวว่า
เดินทางมาเพื่อรับฟังข้อมูลจากตำรวจ และตรวจที่เกิดเหตุในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาของนายพงษ์ธรผู้ตาย
พร้อมกับให้กำลังใจครอบครัวผู้ตายและเจ้าหน้าที่ตำรวจ และร่วมเคารพศพ เท่าที่ฟังจากผู้บังคับบัญชาชั้นต้น
ทราบว่านายพงษ์ธรเป็นคนดี ตั้งใจทำงาน ส่วนเรื่องความขัดแย้งการออกเอกสารสิทธิที่ดินใน
จ.ภูเก็ต ไม่เคยได้รับรายงานมาก่อน ส่วนเรื่องคดีอยากให้ตำรวจทำงานอย่างเต็มที่
หากพูดอะไรไปก่อน ไม่น่าจะถูกต้อง อย่างไรก็ตาม จะได้ดูแลเรื่องสิทธิที่เขาพึงจะได้รับอย่างเต็มที่
ส่วนนายบุญทรง นำมาฝน เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต ผู้บังคับบัญชานายพงษ์ธร
ผู้ตาย เปิดเผยว่า เรื่องส่วนตัวคงไม่ใช่สาเหตุการตายอย่างแน่นอน ส่วนเรื่องงานก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นเรื่องอะไร
เนื่องจากผู้ตายมีหน้าที่ตรวจสอบเกี่ยวกับพื้นที่ที่ได้รับประทานบัตรเหมืองแร่บนเกาะภูเก็ต
ซึ่งปัจจุบันหมดอายุไปแล้ว ว่าเป็นพื้นที่อะไร เขตป่าสงวน ที่ดินสาธารณะ เพื่อรายงานต่อทางจังหวัด
ขณะเดียวกันก็ได้รับความไว้วางใจจากนายพงศ์โพยม วาศภูติ ผวจ.ภูเก็ต ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการบุกรุกที่ดินสาธารณะทั้งหมด
เพื่อรายงานตรงต่อ ผวจ.ภูเก็ต ซึ่งไม่น่าจะขัดผลประโยชน์กับใครถึงต้องลงมือฆ่ากัน
ส่วนข้อพิพาทที่ดิน "หาดเลพัง" ต.เชิงทะเล อ.ถลาง ที่เรื้อรังมากว่า
13 ปี เนื่องจากมีนักธุรกิจใหญ่และชาวบ้านบุกเข้าครอบครองที่งอกชายหาด แต่นักธุรกิจใหญ่มีเอกสารสิทธิ
ขณะที่ชาวบ้านไม่มีเอกสารสิทธิ จนมีการก่อม็อบประท้วง และคณะกรรมาธิการการปกครอง
วุฒิสภา ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นตรวจสอบพื้นที่นั้น นายบุญทรง กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจการตัดสินใจของคณะกรรมาธิการการปกครอง
สำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต มีหน้าที่เพียงปักแนวเขต ทำแผนที่ และผู้ตายก็ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย
ไม่ใช่ปมสังหารอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม นายพงษ์ธรเป็นคนตรงไปตรงมา อาจทำให้นายทุนนักธุรกิจไม่พอใจ
แต่ไม่น่าถึงขึ้นต้องฆ่ากัน ซึ่งนายบุญทรงยอมรับว่า ภูเก็ตมีปัญหาในเรื่องการบุกรุกที่ดินสาธารณะและเขตป่าสงวนมากพอสมควร
จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า นายพงษ์ธร ผู้ช่วยเจ้าพนักงานที่ดินตงฉิน
ได้รับมอบหมายจาก ผวจ.ภูเก็ต ตรวจสอบผู้บุกรุกที่ดินสาธารณะบนเกาะภูเก็ต ซึ่งมีกลุ่มนายทุนไม่ต่ำกว่า
7 กลุ่ม ฮุบที่ดินกว่า 800 แปลง เนื้อที่นับพันไร่ มูลค่าไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาท
โดยไม่มีที่มาที่ไปของที่ดิน และไม่มีในสารบบ และนายพงษ์ธร ยังตรวจพบมีการลักลอบออกเอกสาร
น.ส.3 บนที่ดินที่ประทานบัตรที่หมดอายุแล้วโดยมิชอบ เนื่องจากพื้นที่เหล่านี้เป็นป่าสงวน
นอกจากนี้ยังนายทุนอีกกลุ่ม นำที่ดินที่ไม่อยู่ในสารบบเข้าไปเจรจากับนายพงษ์ธรขอออกเอกสารสิทธิ
แต่นายพงษ์ธรปฏิเสธ พร้อมกับนำเรื่องทั้งหมดรายงานต่อ ผวจ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 23
เม.ย. ที่ผ่านมา และเตรียมจะเปิดโปงพฤติกรรมของกลุ่มนายทุนฮุบป่าสงวนภายในเดือน
เม.ย.นี้ แต่ก็มาถูกยิงตายเสียก่อน ทำให้เชื่อว่าจอมบงการอาจเป็นกลุ่มนายทุนที่เสียประโยชน์
ลงขันจ้างฆ่า เพราะหากมีการสอบสวนเอาผิดกลุ่มนายทุนที่ดินจะต้องตกเป็นของหลวงไปด้วย |