รายละเอียด:
หนึ่งในอาการป่วยยอดฮิตที่หลายๆ คนมักเจอกันบ่อยครั้งก็คืออาการท้องผูก แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าอาการปวดท้องที่เราเป็นนั้นคืออาการท้องผูกหรือปวดท้องอย่างอื่น วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกัน แต่อันดับแรกเราต้องมารู้กันก่อนว่าอาการปวดท้องนั้นเกิดมาจากอะไร
ท้องผูก เกิดขึ้นเมื่อลำไส้บีบตัวหรือเคลื่อนตัวช้าระหว่างการย่อยอาหารทำให้ไม่สามารถขับอุจจาระออกจากระบบทางเดินอาหารได้อย่างปกติและทำให้ไม่สามารถขับถ่ายอุจจาระได้ง่าย มักจะเกิดขึ้นในคนที่ถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ก้อนอุจจาระมีลักษณะแข็ง แห้ง และมีขนาดใหญ่ ทำให้ถ่ายออกได้ลำบาก บางครั้งต้องออกแรงเบ่งเยอะ เกิดอาการท้องอืด ปวดท้อง หรือปวดเกร็งบริเวณหน้าท้อง และอาจรู้สึกว่าถ่ายไม่หมดหรือถ่ายอุจจาระนานด้วย ซึ่งถ้าใครมีอาการเหล่านี้ติดต่อกัน 3 เดือน อาจจะทำให้อาการท้องผูกธรรมดากลายเป็นท้องผูกเรื้อรังอีกด้วย ถ้ามีความผิดปกติในการถ่ายอุจจาระที่ต่างจากเดิม แม้เปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการใช้ชีวิตแล้ว ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุของอาการด้วย
สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการท้องผูกนั้นอาจจะเกิดจากการใช้ยาบางชนิดที่อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น ยาลดกรดที่มีส่วนผสมของสารอะลูมิเนียมไฮดรอกไซด์ ยารักษาอาการซึมเศร้าบางชนิด ยาระงับอาการทางจิด ยารักษาอาการชัก ยาขับปัสสาวะ เป็นต้น หรือจะเป็นสภาวะร่างกายที่ส่งผลต่อฮอร์โมนทำให้เกิดความผิดปกติและทำให้เกิดอาการท้องผูกได้ หรือจะเป็นโรคเกี่ยวกับกล้ามเนื้อ การอุดตันภายในลำไส้ รวมไปถึงการอั้นอุจจาระ รับประทานอาหารที่มีกากใยน้อย ดื่มน้ำน้อย มีภาวะขาดน้ำและเกลือแร่ หรืออยู่ในวัยสูงอายุ
สำหรับการรักษาอาการท้องผูกนั้นสามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเป็นหลัก โดยปกติแล้วควรที่จะปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการใช้ชีวิต เช่น ทานอาหารที่มีกากใยสูง โดยเฉพาะผัก ผลไม้สด ธัญพืช ดื่มน้ำมากๆ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ปรับพฤติกรรมการขับถ่าย ไม่ควรใช้ยาระบายติดต่อกันเป็นเวลานาน นอกจากนี้ยังมีการรักษาอาการท้องผูกด้วยการใช้ยา เช่น ยาระบายกลุ่มออสโมซิส ยาช่วยหล่อลื่นอุจจาระ ยาที่ช่วยให้อุจจาระอ่อนตัว ยาเหน็บและการสวนทวาร เป็นต้น รวมไปถึงการฝึกบริการกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน แต่ถ้าไม่ดีขึ้นจริงๆ แพทย์อาจจะมีการผ่าตัดลำไส้ให้สามารถขับถ่ายได้ดียิ่งขึ้น
แต่ถ้าใครไม่อยากท้องผูก เราสามารถป้องกันได้โดยดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน แอลกอฮอล์ และน้ำอัดลม เลือกรับประทานอาหารที่มีกากใย และควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้อาการท้องผูกจนกลายเป็นอาการเรื้อรังหรือรุนแรงมากขึ้น
|