อ้างมีเงิน-ไม่ได้ซื้อดัก"ชดเชย" ชท.ไม่หวั่นไหวถูก"ตอบโต้" "ทักษิณ"โทรศัพท์เคลียร์"เติ้ง"
เจ้าของที่ดินป่าสัก 900 ไร่ออกโรงแฉ โดนคนแปลกหน้าเรียกค่าวิ่งเต้นเพิ่มเงินชดเชย
200 ล้าน เผยกู้เงินแบงก์มาซื้อที่ราคา 90 ล้าน เมียวอนเห็นใจ ไม่ใช่นายทุนแค่คนทำธุรกิจ
บิ๊ก ชท.เผยนายกฯโทร.คุย"บรรหาร"เคลียร์ปมค่าเวนคืน อ้างเข้าใจกันดีแล้ว "อนุรักษ์"แจงเหตุกลับมติอุทธรณ์
"พีรพงษ์"แฉโดนไถค่าวิ่งเต้นป่าสัก
นายพีรพงษ์ ศิริธรรมวัฒน์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์
พรรคพลังธรรม และนางณัชกมล ศิริธรรมวัฒน์ ภรรยา ผู้มีชื่อเป็นเจ้าของที่ดินประมาณ
900 ไร่ เปิดสำนักงานบริษัท เอเชี่ยนโฮม จำกัด ย่านสะพานควาย เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม
แถลงชี้แจงกรณีเป็นหนึ่งในจำนวน 84 ราย ที่มติคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติให้ได้รับเงินชดเชยค่าเวนคืนที่ดินโครงการเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
ตารางวาละ 1,500 บาท หรือไร่ละ 600,000 บาท ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นมติ
ครม.ที่ส่อเจตนาเอื้อประโยชน์ให้นายทุนและผู้มีฐานะ ซึ่งไปกว้านซื้อที่ดินรอเงินเวนคืน
นอกจากนี้ สองสามีภรรยายังเปิดเผยเรื่องที่ถูกกลุ่มบุคคลมาเจรจาขอค่าหัวคิวในการช่วยเหลือให้ได้เงินชดเชยเพิ่มด้วย
นายพีรพงษ์ ชื่อเดิมนายประชุม กล่าวว่า ได้กู้เงินธนาคารมา
20 ล้านบาท รวมกับเงินทุนส่วนตัว ไปซื้อที่ดินมาทำโครงการป่าสักปาร์ค แอนด์ เฮลธ์
รีสอร์ท ที่ จ.ลพบุรี ตั้งแต่ปี 2534 กระทั่งปี 2538 จึงโดนเวนคืนสร้างเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
นับตั้งแต่เกิดปัญหาขึ้น พยายามวิ่งเต้นกับผู้ใหญ่ในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้เข้ามาช่วยเหลือ
แต่ไม่ใช่ลักษณะของการเข้าไปยื่นข้อเสนอตอบแทนให้ เป็นเพียงการเข้าไปชี้แจงเหตุผลข้อเท็จจริงเท่านั้น
"ผมเพิ่งรู้สึกตัววันนี้เองว่า เป็นก้อนเนื้อที่อยู่ในปากสัตว์สี่เท้า
ตามความหมายของคุณปองพล อดิเรกสาร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ที่บอกถึงสาเหตุการถูกปรับออกจากตำแหน่ง
เพราะต้องมาช่วยเพื่อนอย่างผม จึงทำให้มีคนบางคนไม่พอใจ เมื่อถูกตัดสินว่าไม่อนุมัติจ่ายเงินเพิ่มให้กับที่ดินของผม
ก็จะมีคนแปลกหน้ามาหาที่บ้าน มาคุยกับภรรยาผม พร้อมกับยื่นข้อเสนอให้ว่าจะเดินเรื่องให้
ได้รับเงินแน่นอน แต่คุณจะได้เงินแค่ 200 ล้านบาทเท่านั้น ส่วนที่เหลือหรือเกินจากนั้น
เขาจะเข้ารับไป แต่ผมก็ปฏิเสธไป เพราะคิดเราไม่มีความจำเป็นต้องทำอย่างนั้น" นายพีรพงษ์กล่าว
กางโฉนด900ไร่ราคาแค่90ล้าน
นางณัชกมล ศิริธรรมวัฒน์ กล่าวว่า ตนและสามีไม่เคยยื่นข้อเสนอให้กับใคร
มีแต่คนมาติดต่อว่าจะช่วยเหลือให้ ซึ่งทุกครั้งที่เรื่องของบริษัทก็ไม่ได้รับอนุมัติ
แต่มักจะมีคนแปลกหน้ามาหา เปลี่ยนหน้ากันมาเรื่อยๆ
"ดิฉันและครอบครัวพยายามต่อสู้มาโดยตลอด และแตกต่างจากความคิดเห็นของนายบรรหาร
ศิลปอาชา(หัวหน้าพรรคชาติไทย) ที่มองว่าเป็นเรื่องการช่วยเหลือนายทุน พวกดิฉันไม่ใช่กลุ่มนายทุนแต่เป็นคนทำธุรกิจแล้วประสบปัญหา
การที่กระทรวงเกษตรฯพิจารณาอนุมัติเงินชดเชยให้ถือเป็นการปลดทุกข์ให้แก่ครอบครัว" นางณัชกมลกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการแถลงข่าว นายพีรพงษ์ได้นำภาพถ่ายโฉนดที่ดินทั้ง
2 แปลง มาแสดงต่อสื่อมวลชน โดยมีการระบุชื่อของผู้ขายที่ดินไว้อย่างชัดเจนว่า ที่ดินเนื้อที่แปลงที่หนึ่งจำนวน
477 ไร่ 53 ตารางวา ใน จ.ลพบุรี ซื้อต่อมาจากนายสาคร ศรีสลุง ส่วนที่ดินจำนวน 466
ไร่ 1 งาน 18 ตารางวา ใน จ.สระบุรี ซื้อต่อมาจากนายธีระ รัฐจักร โดยนายพีรพงษ์ระบุว่าใช้เงิน
90 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ซื้อที่ดินทั้งหมด
"อนุรักษ์"แจงเหตุกลับมติอุทธรณ์
ที่พรรคชาติไทย นายอนุรักษ์ จุรีมาศ รองหัวหน้าพรรคชาติไทย
แถลงข่าวร่วมกับนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคชาติไทย
แถลงข่าวชี้แจงสาเหตุที่กลับมติคณะกรรมการอุทธรณ์ค่าเวนคืน พร้อมกับตอบโต้นายปองพล
อดิเรกสาร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์(รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย) ที่ตั้งข้อสังเกตกรณีนายอนุรักษ์เสนอกลับมติอุทธรณ์
โดยอ้างว่าโดนนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยย้ายพ้นตำแหน่ง เพราะไปดึงเนื้อออกจากปากเสือ
นายอนุรักษ์กล่าวว่า ยอมรับว่าได้เซ็นตั้งคณะกรรมการอุทธรณ์เรื่องค่าเวนคืน
แต่ทำในนามรักษาการ เพราะขณะนั้นนายปองพลไม่อยู่ แต่อำนาจในการพิจารณาการตัดสินใจการอุทธรณ์คือนายปองพล
หลังจากที่ออกมาพูดเรื่องนี้ก็มีการโยงใยมาถึงพี่สาวว่ารุกแม่น้ำปิง เรื่องนี้อยู่ในกระบวนการในชั้นของอัยการ
พี่สาวไม่ได้อยู่เหนือกฎหมาย ขณะนี้อยู่ในกระบวนการก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ
เรื่องป่าสักก็อยู่ในกระบวนการไปดึงออกมาทำไม และทราบว่า เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม
2547 ศาลปกครองสูงสุดได้พิพากษาไม่ให้เพิ่มเงินให้บริษัท เขาพวงรีสอร์ท อยู่ในโครงการเขื่อนป่าสักฯ
ก็ไม่อยากให้นำเรื่องดังกล่าวมาเทียบเคียงกับกรณี 84 ราย และไม่อยากให้นำมาใช้กับเรื่องนี้ด้วย
พี่สาวร่ำไห้โดนคดีรุกแม่น้ำปิง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากแถลงข่าว นายอนุรักษ์ได้กล่าวถึงกรณีโรงแรมของพี่สาวนายอนุรักษ์กำลังถูกดำเนินคดีเพราะรุกล้ำลำน้ำปิงว่า
พี่สาวเครียดเรื่องนี้มากถึงกับร้องไห้ทางโทรศัพท์
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ กล่าวว่า เรื่องทั้งหมดมีประชาชนร้อยละ
90 ที่เกี่ยวข้องกับการเวนคืนมีความพึ่งพอใจตั้งแต่วันแรก เมื่อทราบว่าเอาที่ดินไปสร้างเขื่อนตามพระราชดำริ
ยินดีถวายที่ แต่มีเพียง 10% หรือ 84 ราย ที่ร้องขอค่าชดเชยเพิ่ม ส่วน 90% ไม่ร้องเรียน
หากผู้ได้รับผลกระทบไม่พึงพอใจก็สามารถเรียกร้องได้ตามกระบวนการศาล และข้อดีของการพิจารณาเรื่องนี้ในศาลมี
4 เรื่อง คือ 1.ศาลจะแยกแยะพิจารณาที่ละกรณีทีละราย 2.ไม่ว่าจะเป็นคดีที่รัฐหรือประชาชนชนะ
ข้อตัดสินของศาลถือเป็นที่ยุติ 3.ค่าชดเชยจะมากน้อยแค่ไหนก็ควรแก่กรณีที่ศาลจะพิจารณาให้
และ 4.เป็นการเคารพต่อเจตนารมณ์ของประชาชนที่คนส่วนมากไม่ติดใจเรียกร้องเงินชดเชยเพิ่ม
ดังนั้น หากจะดำเนินการก็ควรให้อยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาล ข้อครหาวิ่งเต้นต่างๆ
จะได้ยุติลง และไม่อยากให้ลืมประชาชน 90% ที่ถวายที่ดินต่อในหลวง ไม่ได้คิดเรื่องค่าตอบแทนแต่รัฐบาลกลับเร่งรีบการจ่ายเงินเพิ่มให้คน
10% แล้วจะตอบประชาชนอีก 90% อย่างไร
นายกฯ โทร.เคลียร์"เติ้ง"สงบศึก
นายวีระศักดิ์กล่าวว่า การที่นายปองพลออกมาให้สัมภาษณ์ว่าที่พ้นจากรัฐมนตรีว่าการเกษตรฯ
เกิดจากความขัดแย้งกรณีเขื่อนป่าสักฯนั้น ได้รับทราบจากนายบรรหาร ศิลปอาชา ว่าสาเหตุไม่ใช่จากเหตุการณ์ดังกล่าว
แต่มาจากความมุ่งหวังของนายบรรหารที่จะให้นายปองพลเป็นรองนายกฯ แต่เมื่อนายปองพลไม่ยอม
ต้องการอยู่ที่กระทรวงเกษตรฯอย่างเดียว ทำให้ไม่เกิดความยืดหยุ่นทางการเมือง และในที่สุดก็ตัดสินใจลาออกจากพรรค
นายวีระศักดิ์กล่าวด้วยว่า เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา
ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของนายบรรหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์มาพูดคุยกับนายบรรหาร
และมีการพูดคุยเรื่องเขื่อนป่าสักฯ ผู้ใหญ่ทั้งสองคนก็เข้าใจในระดับที่น่าพอใจแล้ว
"การเสนอเรื่องเข้า ครม.เพื่อขอเป็นหลักการนั้น กับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นคงฟังได้ยาก
เพราะมีการเสนอขอวงเงินที่มีจุดทศนิยม กรอบวงเงินฟังดูแล้วไม่น่าเชื่อถือ ผมไม่ทราบว่าเวลาขอเงินแม่ไปซื้อขนมจะมีใครขอเงินจำนวน
18.35 บาท หรือไม่ มีแต่ขอไป 20 บาท เมื่อไม่ใช่ตัวเลขกลมๆ มันก็ไม่ใช่วงเงินที่ขอในหลักการ" นายวีระศักดิ์ตั้งข้อสังเกต
"ท็อป"ตอกกลับ"แม้ว"ก็ล้วงลูก
นายวราวุธ ศิลปอาชา ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทย กล่าวถึงกรณีนายปองพล
อดิเรกสาร ออกมาแฉถูกปลดจากตำแหน่งเพราะไปล้วงเนื้อออกจากปากเสือว่า พรรคชาติไทยทำหน้าที่ของฝ่ายค้านตรวจสอบการบริหารของฝ่ายรัฐบาล
เมื่อเกิดข้อสงสัย เห็นว่าการมีมติ ครม.ครั้งนี้อาจจะไม่เป็นธรรมจึงออกมาพูด ซึ่งฝ่ายค้านยังรอคำตอบอยู่
แต่ขณะที่รอคำตอบที่ชัดเจนนั้น รัฐบาลกลับคุ้ยข้อมูลอื่นมาตอบโต้ฝ่ายค้าน แต่ถึงรัฐบาลจะแฉกลับหรือเล่นงานฝ่ายค้านที่ออกมาตั้งข้อสงสัย
ก็คงไม่มีใครหวั่นไหว แต่น่าเสียใจที่ประชาชนจะไม่ได้รับฟังคำตอบด้วย
"ที่บอกว่าคุณพ่อ(นายบรรหาร)เขียนโพยหรือล้วงลูก สั่งรัฐมนตรี
และอธิบดีทำงานต่างนั้นๆ ผมอยากให้มองในมุมที่ว่าคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีมีสิทธิที่จะไปดูแลการบริหารราชการของกระทรวง
ทบวง กรมต่างๆ ให้ทำงานได้ดี ซึ่งนายกฯทักษิณ ชินวัตร ก็ปฏิบัติเช่นเดียวกัน ผมเห็นว่าคุณพ่อกับนายกฯทักษิณ
ทำงานในสไตล์คล้ายกัน ปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่านายกฯทักษิณลงไปตามงานทุกเรื่อง ปัญหาภาคใต้ไม่คืบท่านยังลงไปดูด้วยตัวเอง
หรือมีปัญหาเรื่องน้ำท่วมภาคเหนือท่านก็บัญชาการเอง และยังมีอีกหลายเรื่องที่รัฐมนตรีแก้ปัญหาไม่คืบท่านก็ไปนั่งเป็นประธานกรรมการด้วยตัวเอง" นายวราวุธกล่าว
"ชูวิทย์"อัดนายว่าขี้ข้าพลอย
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทย
กล่าวตอบโต้นายปองพลว่า นายปองพลออกมาพูดตอบโต้เรื่องนี้เพราะอยากจะเอาใจใครบางคน
ถามว่าหากวันนี้พรรคชาติไทยมีอำนาจ เป็นรัฐบาล นายปองพลก็คงไม่พูดอย่างนี้ เช่นเดียวกันกับสมาชิกพรรคไทยรักไทยคนอื่นๆ
ไม่ว่าจะเป็นนายภูมิธรรม เวชยชัย รมช.คมนาคม คงจะลืมอุดมการณ์ของคนเดือนตุลาฯหมดแล้ว
ตอนนี้ใครอยากได้ดีก็ต้องออกมาปกป้องนาย เหมือนคำพังเพยที่ว่านายว่าขี้ข้าพลอย
ทรท.จี้เจ้าของที่ดินเปิดตัวไอ้โม่ง
ที่ทำการพรรคไทยรักไทย อาคารไอเอฟซีที นายจตุพร พรหมพันธุ์
รองโฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีการจ่ายค่าเวนคืนที่ดินในโครงการก่อสร้างเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
วงเงิน 719 ล้านบาท ว่าขอเรียกร้องให้นายพีรพงษ์ออกมาเปิดเผยว่า ไอ้โม่งคนไหนออกมาต่อรองให้รับเงิน
200 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะนำเข้าพรรค หากมีการเปิดเผยจะเป็นการง่ายต่อคุณหญิงสุดารัตน์
เกยุราพันธุ์ ที่จะสอบสวน เรื่องนี้คนกำลังจะกินเนื้อเข้าปาก แต่ก็ถูกดึงออกจากปาก
หรือกลายเป็นไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่หรือไม่
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ให้สัมภาษณ์ว่า สนใจข้อมูลของนายบรรหารที่บอกว่ามีการวิ่งเต้นในช่วงที่พรรคชาติไทยเริ่มต้นโครงการ
ช่วยบอกข้อมูลด้วย ตนมาทีหลังอยากทราบข้อมูลนี้ ใครวิ่งกับใคร จะได้นำข้อมูลมาป้องกันในขั้นที่ต้องจ่ายเงิน
ให้เกิดความโปร่งใส
โปรดอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
|
