|
|
|
สรุปสาระข่าว |
|
แหล่งข่าวจากวงการประเมินราคาทรัพย์สินเปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า
ขณะนี้สถาบันการเงินหลายแห่งได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบรายงานการประเมินราคาทรัพย์สินมากขึ้น
เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่าลูกค้าหลายรายใช้วิธีปลอมแปลงรายงานดังกล่าว
แล้วนำไปยื่นประกอบการขอสินเชื่อ ทำให้ลูกค้าบางส่วนได้รับอนุมัติสินเชื่อในวงเงินที่สูง
ทั้งๆ ที่หลักทรัพย์ค้ำประกันมีมูลค่าที่แท้จริงไม่คุ้มมูลหนี้
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวนอกจากจะส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงลูกค้าสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ถูกตรวจสอบเข้มงวดขึ้น
และทำให้กระบวนการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อมีมากขั้นตอนขึ้นแล้ว
ยังถูกสถาบันการเงินจำกัดวงเงินสินเชื่อเพื่อป้องกันความเสี่ยงอีกด้วย
ขณะเดียวกันก็ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของวงการประเมินราคาทรัพย์สินอีกทางหนึ่ง |
|
ข้อคิดเห็น |
|
การโกงกันนั้น
1. ถ้าผู้ประเมินค่าทรัพย์สิน โกง/เรียกรับทรัพย์จากลูกค้า ความเสียหายก็ระดับหนึ่ง
2. ถ้าลูกค้าสมคบกับผู้ประเมินโกง อย่างมากสถาบันการเงินก็เสียหายเพียงรายนั้นรายเดียว
(ถ้าตรวจสอบไม่ละเอียด)
3. แต่กรณีแบงก์เจ๊งนั้น เป็นเพราะผู้บริหารโกงเอง โดยอาศัยลูกค้าและผู้ประเมินค่าเป็นเครื่องมือเท่านั้น |
|
รายละเอียดของเนื้อข่าว |
|
คนซื้อบ้านรับเคราะห์
แบงก์ตรวจเข้มก่อนไฟเขียวปล่อยกู้ เหตุจากเจอมือดีใช้วิธีปลอมแปลงเอกสารการประเมิน
ปั่นราคาทรัพย์สิน แล้วดอดยื่นขอกู้วงเงินสูงเกินจริง
สั่งฝ่ายสินเชื่อดูละเอียดยิบรายงานการประเมินราคาหลักทรัพย์ค้ำประกัน
ตั้งกฎให้บริษัทประเมินทำหนังสือรับรอง หวั่นโดนหลอกซ้ำ
พร้อมจำกัดยอดปล่อยสินเชื่อกันความเสี่ยง
แหล่งข่าวจากวงการประเมินราคาทรัพย์สินเปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า
ขณะนี้สถาบันการเงินหลายแห่งได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบรายงานการประเมินราคาทรัพย์สินมากขึ้น
เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่าลูกค้าหลายรายใช้วิธีปลอมแปลงรายงานดังกล่าว แล้วนำไปยื่นประกอบการขอสินเชื่อ
ทำให้ลูกค้าบางส่วนได้รับอนุมัติสินเชื่อในวงเงินที่สูง ทั้งๆ ที่หลักทรัพย์
ค้ำประกันมีมูลค่าที่แท้จริงไม่คุ้มมูลหนี้
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวนอกจากจะส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงลูกค้าสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ถูกตรวจสอบเข้มงวดขึ้น
และทำให้กระบวนการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อมีมากขั้นตอนขึ้นแล้ว
ยังถูกสถาบันการเงินจำกัดวงเงินสินเชื่อเพื่อป้องกันความเสี่ยงอีกด้วย
ขณะเดียวกันก็ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของวงการประเมินราคาทรัพย์สินอีกทางหนึ่ง
"ตอนนี้หลายๆ แบงก์ใช้วิธีตรวจสอบซ้ำ
ป้องกันการปลอมแปลงราคาประเมิน โดยให้บริษัทประเมินรับรองรายงานซ้ำ
พร้อมกับระบุเป็นลายลักษณ์อักษรให้ชัดเจนว่า ได้ทำการประเมินราคาทรัพย์สินที่ลูกค้าจะวางค้ำประกันเงินกู้
และจัดทำรายงานการประเมินราคาฉบับนั้นจริง จึงจะอนุมัติวงเงินสินเชื่อให้"
"ปัญหาที่เกิดขึ้นเริ่มเป็นที่ทราบในวงกว้าง
ทั้งในส่วนของวงการสถาบันการเงิน และวงการประเมินราคาฯ เรียกได้ว่าช่วงนี้ใครยื่นขอกู้
แล้วนำหลักทรัพย์ไปวางค้ำประกัน ก็จะถูกตรวจสอบราคาประเมินอย่างละเอียดยิบ
เป็นขั้นตอนการตรวจสอบที่เพิ่มขึ้นกว่าปกติ นอกเหนือจากตรวจสอบคุณสมบัติผู้กู้
ความสามารถในการชำระหนี้ ตลอดจนเงื่อนไขอื่นๆ ตามหลักเกณฑ์ปกติทั่วไป"
แหล่งข่าวจากวงการสถาบันการเงินเปิดเผยว่า
ปัญหาการปลอมแปลงรายงานการประเมินราคาทรัพย์เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง
มีทั้งปลอมแปลงเพื่อยื่นขอกู้ประกอบธุรกิจ ซื้อทรัพย์สิน ขอกู้ซื้อบ้าน
ที่ผ่านมาฝ่ายสินเชื่อของสถาบันการเงินหลายแห่งจึงได้รับนโยบายให้ตรวจโดยละเอียด
แม้กรณีปลอมแปลงเพื่อขอกู้ซื้อบ้านจะมีไม่มากนัก แต่เมื่อมีปัญหาทำให้ถูกเหมารวม
ส่งผลให้การกู้มีความยุ่งยาก และถูกจำกัดวงเงินกู้มากขึ้น
"ส่วนใหญ่จะมีการปลอมแปลงรายงานการประเมินราคา
2 จุด จุดแรก คือ มูลค่าทรัพย์สินที่ประเมิน มีการปลอมแปลงให้สูงขึ้น
เพราะต้องการกู้ในวงเงินที่สูงกว่าราคาประเมินจริง จุดที่สองปลอมแปลงเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ในการประเมิน
ซึ่งปกติบริษัทประเมินจะระบุว่า ประเมินไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อะไร
ขอกู้กับแบงก์ไหน แต่บางบริษัทไม่ระบุชัดเจน ทำให้ลูกค้านำไปปลอมแปลงใช้ประโยชน์ไม่ตรงวัตถุประสงค์ได้"
แหล่งข่าวกล่าวว่าการปลอมแปลงอาจเกิดจากกรณีที่สถาบันการเงินให้ลูกค้าไปว่าจ้างบริษัทประเมินฯ
ทำการประเมินราคาทรัพย์สินด้วยตัวเอง จากปกติที่สถาบันการเงินจะติดต่อกับบริษัทประเมินโดยตรง
กรณีแรกเมื่อบริษัทประเมินฯทำการประเมินราคาทรัพย์สินเสร็จเรียบร้อย
ก็จะให้ลูกค้าถือรายงานการประเมินไปให้สถาบันการเงิน ซึ่งอาจทำให้ลูกค้าฉวยโอกาสเปลี่ยนแปลงรายงานการประเมินได้เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ปัญหาบางส่วนยังมาจากบริษัทประเมิน
ที่ขยายตลาดโดยใช้อาศัยรูปแบบแฟรนไชส์ และมอบหมายให้แฟรนไชซีเป็นผู้ขยายตลาด
ซึ่งแฟรนไชซีบางรายจะรับงานนอกระบบ เพราะต้องการหารายได้ โดยไม่แจ้งให้บริษัทแม่ทราบ
เมื่อเกิดปัญหาบริษัทแม่ซึ่งเป็นเจ้าของแฟรนไชส์จึงไม่ยอมรับ
และไม่ให้การรับรองรายงานการประเมินราคา ฯลฯ
นายวิรัชต์ มั่นเจริญพร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายงานโครงการวรารมย์เลควิล
บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า
กรณีที่ลูกค้าจัดทำสัญญาจะซื้อ-จะขายบ้านสูงเกินจริง โดยการปลอมรายงานการประเมินหลักทรัพย์
เพื่อให้ธนาคารปล่อยสินเชื่อกู้ซื้อบ้านในราคาที่สูงนั้น ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับบ้านระดับกลาง-บนมากกว่าบ้านระดับล่าง
ซึ่งกระแสข่าวดังกล่าวมีมา ระยะหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดในเชิงลึก
อยู่ระหว่างศึกษาข้อมูล
"ประเด็นนี้ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทได้ข่าวเหมือนกัน
และเพื่อความไม่ประมาทได้กำชับให้ทีมงานเพิ่มความระมัดระวังในการสกรีนลูกค้ามากขึ้น
เป็นการป้องกันความเสี่ยง" นายวิรัชต์กล่าว
นายรัตนชัย ผาตินาวิน กรรมการผู้จัดการ
บริษัท เมโทรสตาร์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า
กรณีดังกล่าวตนมองว่าอาจเกิดขึ้นได้กับบริษัทไฟแนนซ์ขนาดเล็กที่ไม่มีฝ่ายประเมิน
ราคาเป็นของตนเอง ต้องไปจ้างผู้ประเมินอิสระมาประเมินราคาหลักทรัพย์ให้
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าบริษัทประเมินคงไม่กล้าเสี่ยงให้ข้อมูลที่เกินจริงกับสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้
เนื่องจากขณะนี้สถาบันการเงินต่างเข้มงวดมากขึ้น
"ส่วนใหญ่เกือบทุกแบงก์จะมีฝ่ายประเมินเป็นของตนเองอยู่แล้ว
ไม่น่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้นะ แม้ว่าจะจ้างบริษัทประเมินภายนอกก็ต้องส่งรายงานประเมินฉบับจริงให้กับแบงก์อยู่แล้ว" นายรัตนชัยกล่าว
ด้าน ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ
บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวด้วยว่ากรณีดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้กับผู้ประกอบการรายเล็กที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ฯ
สาเหตุของการปลอมแปลงรายงานราคาประเมินหลักๆ ก็เพื่อต้องการขายสินค้าให้ได้
สำหรับบริษัทยังไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เพราะแบงก์ที่ปล่อยสินเชื่อให้มีความเข้มงวดอยู่แล้ว |