|
|
สรุปสาระข่าว |
|
กคช.เฉือนที่ดินทำเลทองในกทม.
9 ทำเลค่ากว่า 1,000 ล้าน เทขายให้บริษัทพัฒนาที่ดิน
พร้อมลักไก่ขาย ที่ดินทำเลทองประชานิเวศน์มูลค่ากว่า
600 ล้านต่อหลัง แลนด์แอนด์เฮ้าส์บอกเลิกสัญญาและฟ้องร้องต่อศาล
เรียกค่าเสียหาย 688 ล้าน อ้างที่ดินติดภาระผูกพันกับบริษัทเมโทรฯ
ด้านกคช. ออกโรงโต้ที่ดินประชานิเวศน์ปัญหาฟ้องศาลแพ่ง
2 คดี เป็นเพียงเรียกค่าเสียหายไม่เกี่ยวกับภาระผูกพันที่ดิน
ขณะ ที่ "สรวุฒิ" รองผู้ว่าการกคช. พูดชัด "สามารถซื้อขายได้" อ้างบริษัทแลนด์ฯ
ไม่ได้ฟ้อง เพื่อบังคับให้โอนกรรมสิทธิ์ ที่ดิน |
|
ข้อคิดเห็น |
|
ในเนื้อข่าวตอนท้ายมีข้อสังเกตว่า "...ทำไม
กคช. ไม่นำที่ดินดังกล่าวมาพัฒนาเอง เพื่อพัฒนาโครงการของ
กคช. หากยืนยันว่าที่ดินราคาแพง ก็สามารถพัฒนาขายประชาชนทั่วไปได้
น่าแปลกมาก ขณะนี้กคช.มีการประกาศซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการ
ในขณะเดียวกันก็มีการประกาศขายที่ดินในมือออกมา"
นี่แหละครับคนเขาจะมองว่า อาจมีผลประโยชน์ในกระบวนการซื้อ
ๆ ขาย ๆ ได้
และนี่ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งว่า จะซื้อ-จะขายอสังหาริมทรัพย์
ของหน่วยราชการ ควรมีการประเมินค่าทรัพย์สิน โดยคนที่เป็นอิสระ ไม่ใช่ให้ผู้มีส่วนได้เสียประเมินกันเอง
หรือว่าจ้างให้ประเมินเอง |
|
รายละเอียดของเนื้อข่าว |
|
กคช.เฉือนที่ดินทำเลทองในกทม.
9 ทำเลค่ากว่า 1,000 ล้าน เทขายให้บริษัทพัฒนาที่ดิน
พร้อมลักไก่ขาย ที่ดินทำเลทองประชานิเวศน์มูลค่ากว่า
600 ล้านต่อหลัง แลนด์แอนด์เฮ้าส์บอกเลิกสัญญาและฟ้องร้องต่อศาล
เรียกค่าเสียหาย 688 ล้าน อ้างที่ดินติดภาระผูกพันกับบริษัทเมโทรฯ
ด้านกคช. ออกโรงโต้ที่ดินประชานิเวศน์ปัญหาฟ้องศาลแพ่ง
2 คดี เป็นเพียงเรียกค่าเสียหายไม่เกี่ยวกับภาระผูกพันที่ดิน
ขณะ ที่ "สรวุฒิ" รองผู้ว่าการกคช. พูดชัด "สามารถซื้อขายได้" อ้างบริษัทแลนด์ฯ
ไม่ได้ฟ้อง เพื่อบังคับให้โอนกรรมสิทธิ์ ที่ดิน
ตามที่บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นฟ้องการเคหะแห่งชาติ
(กคช.) ต่อศาลแพ่งรัชดา-ภิเษก เพื่อเรียกค่าเสียหายวงเงิน 688,750,000 บาท กรณีผิดสัญญา
ซื้อ-ขายที่ดินย่านประชานิเวศน์ 2 เนื้อที่ 144 ไร่ ที่ผ่านมาและล่าสุด กคช.ได้นำที่ดินแปลงดังกล่าวออกมา
ประกาศขายอีกครั้ง
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายสรวุฒิ ตัง-กาพล รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ(กคช.)
เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ขณะนี้กคช.ได้ประกาศขายที่ดินทำเลทองในเขตกทม.
จำนวน 9 ทำเล มูล-ค่า กว่า 1,000 ล้านบาท ได้แก่ บริเวณ โครงการเคหะชุมชนประชานิเวศน์
2 ระยะ2 ติดกับโครงการเคหะชุมชนประชานิเวศน์2ระยะ1 จำนวน 144 -0-91ไร่ มูลค่า 600
กว่าล้านบาท ที่ดินบริเวณโครงการเหคะชุมชนธนบุรี 2 ตั้งอยู่บริเวณด้านข้างการไฟฟ้านครหลวงเขตบางขุนเทียน
ติดถนนพระราม 2 กิโลเมตรที่ 7.5 จำนวน 2 แปลง เนื้อที่ 42-2-39 ไร่ แปลงที่ 2 ประมาณ
1 ไร่ ที่ดินบริเวณโครงการเมืองใหม่บางพลี ตั้งอยู่ติดกับถนนเทพารักษ์ จำนวน 1 แปลง
เนื้อที่ประมาณ 20-3-34 ไร่ ที่ดินบริเวณโครงการเคหะชุมชน ปทุมธานี ติดถนนปทุมสัมพันธ์จำนวน
1 แปลง เนื้อที่ประมาณ 1-3-89 ไร่ และที่ดินบริเวณโครงการเคหะชุมชนร่มเกล้าจำนวน
9 ไร่ โดยให้เอกชนที่สนใจยื่นซองราคามายังกคช.ในวันที่ 10 ตุลาคม 2546 นี้ ทั้งนี้ราคาที่เสนอจะต้องไม่ต่ำกว่าราคาประเมินที่ดิน
ทั้งนี้ที่ดินทำเลทองดังกล่าวเป็นทำเลที่มีศักยภาพสามารถพัฒนาในเชิงพาณิชย์และโครงการที่อยู่อาศัยระดับสูงเท่านั้น
กคช.ไม่มีโอกาสเข้าไปลงทุนส่วนนี้ได้นอกจากนี้ไม่สามารถนำมาพัฒนาโครงการเคหะชุมชน
หรือโครงการบ้านเอื้ออาทรได้เช่นเดียวกัน นายสรวุฒิกล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ดีสาเหตุที่กคช.นำที่ดินแปลงดังกล่าวมาออกประกาศขายใหม่อีกครั้งทั้งๆ
ที่ผ่านมาได้มีการประกาศซื้อขายไปแล้วและมีคดีฟ้องร้องต่อศาลต่อปัญหาที่ดินแปลงดังกล่าวถึง
2 คดี คือบริษัทเมรโทรเฮ้าส์ซิ่งคอนสตรัคชั่นจำกัด และบริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ฯ เนื่องจากมีบริษัทพัฒนาที่ดินหลายรายสนใจซื้อแปลงที่ดินดังกล่าว
เพราะเชื่อว่าเป็นการฟ้องร้องเพื่อเรียกค่าเสียหายไม่เกี่ยวกับภาระผูกพันในแปลงที่ดิน
"ยืนยันว่าที่ดินแปลงดังกล่าวไม่มีภาระผูกพันใดๆ
กับใครสามารถซื้อ-ขายได้ตามปกติและปัญหาตามมาภายหลัง
แม้จะมีการฟ้องร้องแต่เป็นการฟ้องร้องเพื่อเรียกค่าเสียหายกคช.กรณีที่ทำให้เสียโอกาสเท่านั้น
ไม่ได้ฟ้องร้องเพื่อบังคับให้โอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินแต่อย่างใด" นายสรวุฒิกล่าวต่อว่า
แปลงที่ดินประชานิเวศน์2 เนื้อที่ 144-0-91 ไร่ดังกล่าว
เดิมกคช.ได้ตกลงขายและทำสัญญาจะซื้อจะขายให้กับบริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ฯไปแล้วในวงเงิน
605ล้านบาท แต่ปรากฎว่าวันโอนกรรมสิทธิบริษัทกลับเป็นฝ่ายผิดนัดโอนฯ และต่อมาได้ขอยกเลิกสัญญาจะซื้อจะขายกับกคช.
และฟ้องร้องต่อศาลแพ่ง รัชดาภิเษกเพื่อเรียกค่าเสียหายวงเงิน 688 ล้านบาท โดยอ้างว่าทำให้บริษัทเสียโอกาสทางธุรกิจปกปิดข้อมูลกรณีที่ที่ดินมีภาระผูกพันและยังมีคดีฟ้องร้องเกี่ยวกับแปลงที่ดินดังกล่าวกับบริษัทเมโทร
เฮ้าส์ซิ่งแอนด์คอนสตรัคชั่นจำกัด โดยเรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกากรณีเรียกร้องค่าเสียหายที่ทำให้เสียโอกาสเช่นเดียวกัน
ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทเมโทรได้แพ้ดคีไปแล้ว 2 ศาล และเชื่อว่าคำพิพากษาของศาลฎีกาน่าจะออกมาเหมือนกับศาลชั้นต้นและศาลอุธรณ์
นอกจากนี้กรณีที่บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ฯอ้างว่าแปลงที่ดินไม่มีทางเข้าออก และมีชาวบ้านปิดทางเข้าออกนั้นไม่เป็นความจริง
เพราะมีทางเข้าออกหลายทาง และที่ชาวบ้านปิดทางเข้าออกนั้นเชื่อว่าเป็นการเข้ามาบุกรุกอยู่อาศัยชั่วคราว
ด้านแหล่งข่าวจากบริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า
เรื่องนี้ทางผู้บริหารกคช.ก็ทราบว่ามีการฟ้องร้องกับบริษัทเมโทรฯอยู่ก่อนแล้ว แต่ก็ยังมีการนำเอามาประมูลขาย
และทางบริษัทไม่มีใครทราบเรื่องฟ้องร้องมาก่อน กระทั่งคู่กรณีแจ้งมาให้ทราบ หากมีการโอนกันไป
ทางบริษัทมีสิทธิสูญเงินฟรีหากศาลฎีกาตัดสินให้กคช.แพ้
ทั้งนี้การมีคดีฟ้องร้องในศาลอยู่ก่อนแล้วนั้น เป็นสาเหตุหนึ่งที่บริษัทแลนด์ไม่ทำการโอน
และบางส่วนของพื้นทียังเป็นที่ดินสาธารณะ บริษัมจึงปฎิเสธการรับโอน และขอเงินค้ำประกันคืน
แต่ทางกคช.กลับยืนยันว่า จะคืนให้ก็ต่อเมื่อศาลมีคำสั่งเท่านั้น เท่ากับว่าให้ไปร้องศาลเอาเอง
ดคีที่บริษัทร้องไปตอนนี้ศาลประทับรับฟ้องแล้วเช่นกัน
อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่าทำไม กคช.ไม่นำที่ดินดังกล่าวมาพัฒนาเอง
เพื่อพัฒนาโครงการของกคช. หากยืนยันว่าที่ดินราคาแพง ก็สามารถพัฒนาขายประชาชนทั่วไปได้
น่าแปลกมาก ขณะนี้กคช.มีการประกาศซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการ ในขณะเดียวกันก็มีการประกาศขายที่ดินในมือออกมา
อนึ่ง บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ได้ตกลงทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินที่ประชานิเวศน์
2 ระยะ2 ตำบาลท่าทราย อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี จำนวน 1 แปลง 144-0-91 ไร่ ราคา
605,430,000 บาท เมื่อเดือนกันยายน 2545 ที่ผ่านมา โดยวางมัดจำจำนวน 60,543,000
บาท ส่วนที่เหลือ ตกลงชำระวันโอนกรรมสิทธิ 554,887,000 บาท ต่อมาภายหลังบริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ไม่มาโอนฯตามนัดพร้อมทั้งยกเลิกสัญญาจะซื้อจะขายและฟ้องร้องกคช.ต่อศาลข้อหาจงใจปกปิดข้อมูลที่ยังมีคดีฟ้องร้องกับบริษัทเมโทรเฮ้าส์ซิ่งแอนด์คอนสตรัคชั่นอยู่ |
|