ครึ่งปีหลัง "จัดสรร" แข่งเข้มข้น เร่งสร้างลุยขายรีบโอนก่อนสิ้นปี
วันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน 2545 MGR ONLINE

สรุปสาระข่าว

        ตลาดที่อยู่อาศัยหวนคืนสู่ยุค "ลด แลก แจก แถม ชิงโชค" ผู้ประกอบการบ้านจัดสรรอัดฉีดรายการส่งเสริม การขายทุกรูปแบบ แม้ไม่มีใครรู้ว่า ยอดจองบ้านของผู้จัดสรรทุกรายเปิด เผยออกมาจะกลายเป็นยอดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ได้จริงมากน้อยเพียงใด "ครึ่งปีหลังคงจะได้เห็นการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น เพราะผู้ประกอบการทุกค่ายต่างก็หวังจะเก็บเกี่ยวยอดขาย และยอดโอนบ้านให้ได้ทันก่อนจบปีนี้ เพราะขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณจากทางรัฐบาลที่จะบ่งชี้ว่ามาตรการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าธรรมเนียมการโอน ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ และค่าจดจำนอง ซึ่งเอื้อประโยชน์โดยตรงแก่ธุรกิจนี้จะได้รับการยืดเวลาออกไปจากสิ้นปีนี้หรือไม่นั่นเอง"
 
ข้อคิดเห็น

        
ข้างต้นบรรยายชัดเจนถึงสาเหตุของความคืกคักของตลาดบ้านจัดสรรในวันนี้ ซึ่งไม่ใช่ว่าตลาด "บูม" อีกแล้วแต่อย่างใด ดังนั้นหากเราพบข่าวในทำนองว่าภาวะตลาดดีอย่างนั้นอย่างนี้ (เพื่อ "ยุยง" ให้เราซื้อ "แบบไม่ยั้งคิดให้ดี") เราต้องหนักแน่นไว้ใช้วิจารณญาณในการซื้อก่อน
        จะเห็นได้ว่า ทั้งรัฐบาลและผู้ประกอบการต่างออกทำการรณรงค์ "กระตุ้น" ให้คนซื้อบ้านกันใหญ่ แต่น่าแปลกใจไหมว่า
        1. ทำไมไม่คลอดมาตรการคุ้มครองคนซื้อ โดยเฉพาะการคุ้มครองเงินดาวน์ของชาวบ้านผู้ซื้อบ้าน ว่าถ้าผู้ประกอบการรายไดมีปัญหาทางการเงินเช่นที่ผ่านมา เงินจำนวนนี้ (พร้อมดอกเบี้ย) จะคืนผู้จองซื้อบ้านทันที และมอบหมายให้สถาบันการเงินหรือหน่วยงานที่เป็นกลางเก็บรักษาเงินก้อนนี้ไว้คืนชาวบ้านทันที
        2. ทำไมไม่มีการสำรวจว่าโครงการใดใช้สัญญาซื้อบ้านมาตรฐานที่ไม่เอาเปรียบผู้ซื้อ มีการใช้สัญญามาตรฐานกันอย่างจริงจังหรือยัง
        การกระตุ้นกำลังซื้อโดยไม่มีมาตรการคุ้มครองชาวบ้าน อาจสร้างปัญหาระยะยาวได้

รายละเอียดของเนื้อข่าว

ครึ่งปีหลัง "จัดสรร" แข่งเข้มข้น เร่งสร้างลุยขายรีบโอนก่อนสิ้นปี

        ตลาดที่อยู่อาศัยหวนคืนสู่ยุค "ลด แลก แจก แถม ชิงโชค" ผู้ประกอบการบ้านจัดสรรอัดฉีดรายการส่งเสริม การขายทุกรูปแบบ แม้ไม่มีใครรู้ว่า ยอดจองบ้านของผู้จัดสรรทุกรายเปิด เผยออกมาจะกลายเป็นยอดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ได้จริงมากน้อยเพียงใด แต่ที่แน่ๆ เวลานี้เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่า บรรยากาศของการซื้อหาที่อยู่อาศัยตื่นตัวและคึกคักขึ้นมาไม่น้อย
        "ครึ่งปีหลังคงจะได้เห็นการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น เพราะผู้ประกอบการทุกค่ายต่างก็หวังจะเก็บเกี่ยวยอดขาย และยอดโอนบ้านให้ได้ทันก่อนจบปีนี้ เพราะขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณจากทางรัฐบาลที่จะบ่งชี้ว่ามาตรการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าธรรมเนียมการโอน ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ และค่าจดจำนอง ซึ่งเอื้อประโยชน์โดยตรงแก่ธุรกิจนี้จะได้รับการยืดเวลาออกไปจากสิ้นปีนี้หรือไม่นั่นเอง"ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ ลลิล กรุ๊ป เผย
        ประกอบกับเวลาช่วงครึ่งปีหลังถือว่าเป็นช่วงไฮ ซีซั่นของธุรกิจจัดสรร ซึ่งโดยทั่วไปแล้วทุกโครงการจะทำยอดขายได้ดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก จึงไม่น่าแปลกใจที่ตอนนี้ ทุกค่ายต่างรอไทม์ มิ่งเปิดตัวโครงการหรือเฟสใหม่ พ่วงด้วยข้อเสนอพิเศษ

การเริ่มต้นของลลิล กรุ๊ป
        จากแคมเปญร่วมกับธนาคารกรุงศรีอยุธยาจัดโปรโมชั่นให้สิทธิรับวงเงินกู้ สูงสุดถึง 95% ของราคาขาย ในอัตราดอกเบี้ย 3.5%ในปีแรก และปีที่สอง 4.5% ปีที่ 3 MLR ลบ1.25% หลังจาก นั้นอัตราดอกเบี้ย MLR พร้อมลุ้นโชครางวัลบัญชีเงินฝาก 50 รางวัลมูลค่ารวม 1 ล้านบาท เสมือนพลุนัดแรกที่จุดขึ้นเพื่อเปิดฉากครึ่งปีหลังแคมเปญดังกล่าว ลลิล กรุ๊ปวาง ไว้เป็นหมากเด็ดสำหรับการส่งเสริมการขายบ้านในโครงการบ้านบุรีรมย์ 3 รามอินทรา-คู้บอน ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน-15 พฤศจิกายนนี้ โดยใน 5 เดือนทางธนาคารได้จัดเตรียมวงเงินไว้ 300 ล้านบาทไม่ต้องซัปพอร์ตส่วนต่าง ดบ.
        ชาลอต โทณวณิก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นับเป็นครั้งแรกของธุรกิจอสังหาริม- ทรัพย์ที่ทำโปรโมชั่นร่วมกับธนาคาร ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงการเป็นพันธมิตรระหว่างธนาคารและลลิล กรุ๊ป และในไตรมาสแรกที่ผ่านมากลุ่ม ลูกค้าของลลิลฯก็มียอดการใช้สินเชื่อ เคหะกับธนาคารสูงสุด ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสอง องค์กรที่มีมาตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤต ทั้งในส่วนของการให้สินเชื่อพัฒนาโครงการและสินเชื่อสำหรับลูกค้ารายย่อย ในโครงการบ้านบุรีรมย์ 1-2 รามอินทราคู้บอน, ลลิลกรีนวิลล์ วงแหวน-เอกชัย,ลลิล ศรีนครินทร์-เทพารักษ์,ลลิล รามอินทรา-วัชรพล และลัลลี่วิลล์ ธนบุรีรมย์ ได้กลายเป็น เหตุผลหลักของความร่วมมือครั้งนี้
        ไชยยันต์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ ลลิล กรุ๊ป กล่าวว่า จากผลงาน ที่ผ่านมา ทำให้แบงก์เห็นว่าบริษัทได้มีการวิจัยข้อมูลตลาดเป็นอย่างดีส่งผลให้เดินถูกทาง แบงก์เชื่อถือในตัวทีมงาน ผนวกกับบริษัทกู้หนี้ไม่เกินกำลัง และเป็นผู้ประกอบการที่ทำการบ้านมาดี จึงสามารถทำแคมเปญในลักษณะนี้ได้ โดยที่ลลิลฯไม่ต้องซัปพอร์ตในส่วนของดอกเบี้ย เหมือนกับผู้ประกอบการหลายรายก่อนหน้า นี้ที่ทำแคมเปญร่วมกับสถาบันการเงิน ซึ่งให้ดอกเบี้ยต่ำแก่ลูกค้าก็จริง แต่ทาง โครงการต้องรับภาระส่วนต่างระหว่าง ดอกเบี้ยพิเศษตามแคมเปญกับดอกเบี้ยที่ให้ลูกค้าทั่วไปกู้ และหากหลังจากนี้มีผู้ประกอบการรายอื่นที่นำคอนเซ็ปต์นี้ไปใช้ก็นับเป็นนิมิตรหมายที่ดี
        "ความร่วมมือที่เกิดขึ้นนับเป็นกลยุทธ์ที่ win: win : win ทั้ง 3 ฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นบริษัทที่มีโอกาสสร้างยอด ขายเพิ่มขึ้นขณะเดียวกันแบงก์ก็สามารถขยายสินเชื่อได้ตามเป้าหมาย ส่วนผู้ซื้อก็ได้รับเงื่อนไขที่ดีในการซื้อบ้าน โดยแบงก์เป็นผู้สนับสนุนเงินรางวัล 1 ล้านบาท ส่วนบริษัทออกค่า สื่อและการประชาสัมพันธ์ประมาณ 4 ล้าน แพ็กเกจนี้เป็นโปรเจกต์นำร่อง ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าในอนาคตจะนำไปใช้กับโครงการอื่นๆที่จะมีการเปิดตัวอีก 2-3 โครงการในปีนี้ โดยเงื่อนไขอัตราดอกเบี้ยแคมเปญนี้จะแพ้ก็แต่เฉพาะแบงก์รัฐบางแห่งเท่านั้น ซึ่งรัฐให้ การสนับสนุน"ประเสริฐกล่าวเสริม

บ้านแมกไม้แจกแอร์
        ขณะเดียวกันในโอกาสครบรอบ 17 ปี สำหรับการดำเนินงานของบริษัท ไทยมอริโมโต้ จำกัด เจ้าของโครง การบ้านแมกไม้ วัชรพลและบ้านแมก ไม้ออเงิน-วัชรพล ได้จัดแคมเปญ "ฉลองชัยยิ่งใหญ่ 17 ปีบ้านแมกไม้" ด้วยการลดราคาบ้านตั้งแต่ 22-25% ทั้งสองทำเล นอกจากนี้ลูกค้าที่จองบ้านตลอดเดือนมิถุนายนนี้ยังได้รับเครื่องปรับอากาศขนาด 13000 บีทียู สำหรับทาวน์เฮ้าส์ และ 18000 บีทียูสำหรับบ้านเดี่ยว พร้อมติดตั้งฟรี
        จากแคมเปญข้างต้นบริษัทคาดว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากบ้านแมกไม้ วัชรพล 40% และบ้านแมกไม้ออเงิน-วัชรพล 60% ทั้งนี้ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤษภาคมยอดขายโครงการบ้านแมกไม้ออเงิน-วัชรพลมียอดขายโตขึ้น 300% ขณะที่บ้านแมกไม้ วัชรพลโตขึ้น ถึง 400% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของ ปีก่อน

เอ็น.ซี. เติมยอดให้เต็ม 2 พันล.
        หากจะพิจารณาเป้าหมายยอดขายที่ผู้ประกอบการจัดสรรรายกลางตั้งไว้เมื่อต้นปีถึงขณะนี้ผ่านมาแล้ว 5 เดือน พบว่าทั้ง ลลิลและเอ็น.ซี.ทำได้ใกล้เคียงเป้า ขณะที่พฤกษาและวังทองมียอดขาย เลยครึ่งทางมาเล็กน้อย(รายละเอียดในตาราง) โดยผลประกอบการจากเดือนมกราคมถึง พฤษภาคม 2545 ของกลุ่มบริษัท เอ็น. ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด แจ้งว่ามียอดขายแล้ว 450 ยูนิต มูลค่าการขาย 900 ล้านบาท
        ในจำนวนนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเปิดพรีเซลโครงการ บ้านฟ้ากรีนพาร์ค ลาดพร้าว ไปเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ใน เวลา 1 เดือนสามารถทำยอดขายได้แล้วกว่า 65 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าการขาย 279 ล้านบาท จากจำนวนบ้านเดี่ยว ทั้งหมด 99 ยูนิต โดยทั้งปีบริษัทกำหนดเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 2,000 ล้านบาทและเป้ายอดโอนที่ 1,500 ล้านบาท