รายละเอียดของเนื้อข่าว
ครึ่งปีหลัง "จัดสรร" แข่งเข้มข้น เร่งสร้างลุยขายรีบโอนก่อนสิ้นปี
ตลาดที่อยู่อาศัยหวนคืนสู่ยุค "ลด
แลก แจก แถม ชิงโชค" ผู้ประกอบการบ้านจัดสรรอัดฉีดรายการส่งเสริม
การขายทุกรูปแบบ แม้ไม่มีใครรู้ว่า ยอดจองบ้านของผู้จัดสรรทุกรายเปิด
เผยออกมาจะกลายเป็นยอดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ได้จริงมากน้อยเพียงใด
แต่ที่แน่ๆ เวลานี้เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่า บรรยากาศของการซื้อหาที่อยู่อาศัยตื่นตัวและคึกคักขึ้นมาไม่น้อย
"ครึ่งปีหลังคงจะได้เห็นการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น
เพราะผู้ประกอบการทุกค่ายต่างก็หวังจะเก็บเกี่ยวยอดขาย และยอดโอนบ้านให้ได้ทันก่อนจบปีนี้
เพราะขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณจากทางรัฐบาลที่จะบ่งชี้ว่ามาตรการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าธรรมเนียมการโอน
ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ และค่าจดจำนอง ซึ่งเอื้อประโยชน์โดยตรงแก่ธุรกิจนี้จะได้รับการยืดเวลาออกไปจากสิ้นปีนี้หรือไม่นั่นเอง"ประเสริฐ
แต่ดุลยสาธิต ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ ลลิล กรุ๊ป เผย
ประกอบกับเวลาช่วงครึ่งปีหลังถือว่าเป็นช่วงไฮ
ซีซั่นของธุรกิจจัดสรร ซึ่งโดยทั่วไปแล้วทุกโครงการจะทำยอดขายได้ดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก
จึงไม่น่าแปลกใจที่ตอนนี้ ทุกค่ายต่างรอไทม์ มิ่งเปิดตัวโครงการหรือเฟสใหม่ พ่วงด้วยข้อเสนอพิเศษ
การเริ่มต้นของลลิล กรุ๊ป
จากแคมเปญร่วมกับธนาคารกรุงศรีอยุธยาจัดโปรโมชั่นให้สิทธิรับวงเงินกู้
สูงสุดถึง 95% ของราคาขาย ในอัตราดอกเบี้ย 3.5%ในปีแรก และปีที่สอง 4.5% ปีที่ 3
MLR ลบ1.25% หลังจาก นั้นอัตราดอกเบี้ย MLR พร้อมลุ้นโชครางวัลบัญชีเงินฝาก 50 รางวัลมูลค่ารวม
1 ล้านบาท เสมือนพลุนัดแรกที่จุดขึ้นเพื่อเปิดฉากครึ่งปีหลังแคมเปญดังกล่าว ลลิล
กรุ๊ปวาง ไว้เป็นหมากเด็ดสำหรับการส่งเสริมการขายบ้านในโครงการบ้านบุรีรมย์ 3 รามอินทรา-คู้บอน
ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน-15 พฤศจิกายนนี้ โดยใน 5 เดือนทางธนาคารได้จัดเตรียมวงเงินไว้
300 ล้านบาทไม่ต้องซัปพอร์ตส่วนต่าง ดบ.
ชาลอต โทณวณิก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นับเป็นครั้งแรกของธุรกิจอสังหาริม-
ทรัพย์ที่ทำโปรโมชั่นร่วมกับธนาคาร ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงการเป็นพันธมิตรระหว่างธนาคารและลลิล
กรุ๊ป และในไตรมาสแรกที่ผ่านมากลุ่ม ลูกค้าของลลิลฯก็มียอดการใช้สินเชื่อ เคหะกับธนาคารสูงสุด
ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสอง องค์กรที่มีมาตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤต ทั้งในส่วนของการให้สินเชื่อพัฒนาโครงการและสินเชื่อสำหรับลูกค้ารายย่อย
ในโครงการบ้านบุรีรมย์ 1-2 รามอินทราคู้บอน, ลลิลกรีนวิลล์ วงแหวน-เอกชัย,ลลิล ศรีนครินทร์-เทพารักษ์,ลลิล
รามอินทรา-วัชรพล และลัลลี่วิลล์ ธนบุรีรมย์ ได้กลายเป็น เหตุผลหลักของความร่วมมือครั้งนี้
ไชยยันต์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ
ลลิล กรุ๊ป กล่าวว่า จากผลงาน ที่ผ่านมา ทำให้แบงก์เห็นว่าบริษัทได้มีการวิจัยข้อมูลตลาดเป็นอย่างดีส่งผลให้เดินถูกทาง
แบงก์เชื่อถือในตัวทีมงาน ผนวกกับบริษัทกู้หนี้ไม่เกินกำลัง และเป็นผู้ประกอบการที่ทำการบ้านมาดี
จึงสามารถทำแคมเปญในลักษณะนี้ได้ โดยที่ลลิลฯไม่ต้องซัปพอร์ตในส่วนของดอกเบี้ย เหมือนกับผู้ประกอบการหลายรายก่อนหน้า
นี้ที่ทำแคมเปญร่วมกับสถาบันการเงิน ซึ่งให้ดอกเบี้ยต่ำแก่ลูกค้าก็จริง แต่ทาง โครงการต้องรับภาระส่วนต่างระหว่าง
ดอกเบี้ยพิเศษตามแคมเปญกับดอกเบี้ยที่ให้ลูกค้าทั่วไปกู้ และหากหลังจากนี้มีผู้ประกอบการรายอื่นที่นำคอนเซ็ปต์นี้ไปใช้ก็นับเป็นนิมิตรหมายที่ดี
"ความร่วมมือที่เกิดขึ้นนับเป็นกลยุทธ์ที่
win: win : win ทั้ง 3 ฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นบริษัทที่มีโอกาสสร้างยอด ขายเพิ่มขึ้นขณะเดียวกันแบงก์ก็สามารถขยายสินเชื่อได้ตามเป้าหมาย
ส่วนผู้ซื้อก็ได้รับเงื่อนไขที่ดีในการซื้อบ้าน โดยแบงก์เป็นผู้สนับสนุนเงินรางวัล
1 ล้านบาท ส่วนบริษัทออกค่า สื่อและการประชาสัมพันธ์ประมาณ 4 ล้าน แพ็กเกจนี้เป็นโปรเจกต์นำร่อง
ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าในอนาคตจะนำไปใช้กับโครงการอื่นๆที่จะมีการเปิดตัวอีก 2-3 โครงการในปีนี้
โดยเงื่อนไขอัตราดอกเบี้ยแคมเปญนี้จะแพ้ก็แต่เฉพาะแบงก์รัฐบางแห่งเท่านั้น ซึ่งรัฐให้
การสนับสนุน"ประเสริฐกล่าวเสริม
บ้านแมกไม้แจกแอร์
ขณะเดียวกันในโอกาสครบรอบ 17 ปี
สำหรับการดำเนินงานของบริษัท ไทยมอริโมโต้ จำกัด เจ้าของโครง การบ้านแมกไม้ วัชรพลและบ้านแมก
ไม้ออเงิน-วัชรพล ได้จัดแคมเปญ "ฉลองชัยยิ่งใหญ่ 17 ปีบ้านแมกไม้" ด้วยการลดราคาบ้านตั้งแต่
22-25% ทั้งสองทำเล นอกจากนี้ลูกค้าที่จองบ้านตลอดเดือนมิถุนายนนี้ยังได้รับเครื่องปรับอากาศขนาด
13000 บีทียู สำหรับทาวน์เฮ้าส์ และ 18000 บีทียูสำหรับบ้านเดี่ยว พร้อมติดตั้งฟรี
จากแคมเปญข้างต้นบริษัทคาดว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า
40 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากบ้านแมกไม้ วัชรพล 40% และบ้านแมกไม้ออเงิน-วัชรพล 60% ทั้งนี้ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤษภาคมยอดขายโครงการบ้านแมกไม้ออเงิน-วัชรพลมียอดขายโตขึ้น
300% ขณะที่บ้านแมกไม้ วัชรพลโตขึ้น ถึง 400% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของ ปีก่อน
เอ็น.ซี. เติมยอดให้เต็ม
2 พันล.
หากจะพิจารณาเป้าหมายยอดขายที่ผู้ประกอบการจัดสรรรายกลางตั้งไว้เมื่อต้นปีถึงขณะนี้ผ่านมาแล้ว
5 เดือน พบว่าทั้ง ลลิลและเอ็น.ซี.ทำได้ใกล้เคียงเป้า ขณะที่พฤกษาและวังทองมียอดขาย
เลยครึ่งทางมาเล็กน้อย(รายละเอียดในตาราง) โดยผลประกอบการจากเดือนมกราคมถึง พฤษภาคม
2545 ของกลุ่มบริษัท เอ็น. ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด แจ้งว่ามียอดขายแล้ว 450 ยูนิต
มูลค่าการขาย 900 ล้านบาท
ในจำนวนนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเปิดพรีเซลโครงการ
บ้านฟ้ากรีนพาร์ค ลาดพร้าว ไปเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ใน เวลา 1 เดือนสามารถทำยอดขายได้แล้วกว่า
65 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าการขาย 279 ล้านบาท จากจำนวนบ้านเดี่ยว ทั้งหมด 99 ยูนิต
โดยทั้งปีบริษัทกำหนดเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 2,000 ล้านบาทและเป้ายอดโอนที่ 1,500
ล้านบาท |