Eng
หน้าแรก เกี่ยวกับมูลนิธิ หลักการประเมินค่าทรัพย์สิน มาตรฐานจรรยาบรรณ
อัตราผลตอบแทน
มาตรฐานราคาค่าก่อสร้าง บทความความรู้ข้อแนะนำ เว็บบอร์ด ติดต่อมูลนิธิ
อ่าน 649 คน
     โสเภณีถูกกฎหมาย ช่วยปราบทุจริต รักษาศีลธรรม
9 ตุลาคม 2554 เผยแพร่ครั้งแรกในประชาไท online:
http://prachatai.com/journal/2011/10/37352

ดร.โสภณ พรโชคชัย
facebook.com/dr.sopon

          ในประเทศไทย โสเภณีเป็นอาชีพที่ผิดกฎหมาย แต่กลับมีผู้ประกอบอาชีพนี้อยู่มากมาย มีสถานค้าประเวณีอยู่เป็นจำนวนมากในรูปแบบสถานอาบอบนวด ร้านคาราโอเกะ ฯลฯ ศีลธรรมคือข้ออ้างสำคัญที่ทำให้อาชีพนี้ผิดกฎหมาย แต่การที่ทำให้อาชีพนี้ผิดกฎหมาย กลับเป็นการทำลายศีลธรรมอย่างถึงแก่น และกลายเป็นการปกป้องกลุ่มอิทธิพลบางกลุ่มให้สามารถทำอาชีพนี้อย่างเป็นล่ำเป็นสัน
          ในทางตรงกันข้าม อาชีพโสเภณีกลับถูกกฎหมายในยุโรปตะวันตกนับสิบประเทศ โดยเฉพาะประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นประเทศที่เจริญ น่าอยู่และโปร่งใสที่สุดแห่งหนึ่งของโลกนั้น อาชีพโสเภณีเป็นอาชีพที่ต้องได้รับใบอนุญาต ผู้ให้บริการเสียภาษีถูกต้อง ลูกค้าสามารถจ่ายผ่านบัตรเครดิตได้ด้วย น่าแปลกแท้ ๆ ประเทศที่ประชาชนมีจริยธรรมสูงส่ง มีวินัยดีเยี่ยม มีคุณภาพชีวิตและการศึกษาชั้นยอด กลับเปิดกว้างสำหรับอาชีพโสเภณีอย่างถูกกฎหมาย
          เฉพาะในสวิตเซอร์แลนด์ มีโสเภณี 14,000 คน สร้างรายได้ได้ประมาณ 118,055 ล้านบาทต่อปี (3.5 พันล้านสวิสฟรังค์) ผู้ชายระหว่างอายุ 20-65 ปี (อายุเฉลี่ย 33 ปี) จำนวน 350,000 คน (20% ของชายในวัยนี้ทั้งหมด) เคยใช้บริการอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ประชากรสวิตเซอร์แลนด์มี 7.6 ล้านคน แสดงว่ามีโสเภณีประมาณ 1 คนต่อประชากรชาย 271 คน (โดยสมมติให้ประชากรหญิงมีเท่ากับชาย) หากใช้สถิตินี้มากับกรณีประเทศไทยที่มีประชากร 66.7 ล้านคน ก็อาจอนุมานได้ว่าไทยมีโสเภณีถึง 246,125 คน
          การเปิดกว้างและสร้างความโปร่งใสให้เป็นอาชีพที่อยู่ภายใต้การควบคุมตามกฎหมายคล้ายอาชีพวิศวกร สถาปนิก แพทย์ ช่างก่อสร้าง ช่างตัดผม ฯลฯ ก็เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค โสเภณีที่ได้รับการควบคุมการประกอบอาชีพสามารถโฆษณา หรือติดต่อธุรกิจผ่านทางโทรศัพท์ หรือจัดหาสถานที่ ๆ เหมาะสมเพื่อการทำธุรกิจ ทางราชการสามารถจัดโปรแกรมการฝึกอบรมความรู้ การออมทรัพย์ การใช้เงิน การวางแผนความมั่งคั่งในอนาคของผู้ให้บริการ รวมทั้งการอบรมผู้ใช้บริการให้อยู่ในกรอบกฎหมายโดยเคร่งครัด
          ว่ากันว่าโสเภณีเป็นอาชีพที่เก่าแก่ที่สุดในโลก โดยนับย้อนไปถึงยุคเมโสโปเตเมียซึ่งเป็นหนึ่งในสังคมอารยธรรมยุคแรก ๆ ของมนุษยชาติ ในกรณีประเทศไทยมีบันทึกไว้ตั้งแต่สมัยพระเจ้าอู่ทอง ครั้งต้นกรุงศรีอยุธยา และไม่ได้ถือว่าเป็นอาชีพที่ผิดกฎหมาย  ในช่วงปลายรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ก็มีการตราพระราชบัญญัติป้องกันสัญจรโรค รัตนโกสินทร์ศก 127 (พ.ศ.2451) เพื่อมุ่งแก้ไขปัญหาโรค แต่ก็ไม่ได้ทำให้อาชีพนี้ผิดกฎหมาย กฎหมายนี้มีความตอนหนึ่งว่า “(สถานค้าประเวณี) ต้องมีโคมแขวนไว้หน้าโรงเป็นเครื่องหมาย . . .” กฎหมายฉบับนี้ยังบัญญัติให้โสเภณีต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน มีการจัดทำบัญชีรายชื่อ และมีข้อห้ามการบังคับล่อลวงหญิงมาเพื่อค้าประเวณี เป็นต้น ว่ากันว่าตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 จนถึงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 สถานค้าประเวณีมีอยู่ทั่วไปแทบทุกหัวระแหง
          ในบางศาสนา ศาสดาก็ไม่ได้รังเกียจโสเภณี และโสเภณีก็มีโอกาสขึ้นสู่สรวงสวรรค์หรือบรรลุธรรมเช่นกัน เพียงแต่สถานค้าประเวณีถือเป็นสถานที่ ‘อโคจร’ สำหรับนักบวช ยิ่งกว่านั้นนักบุญบางท่านถึงกับมองว่าโสเภณีช่วยแก้ปัญหาความแตกแยกในครอบครัวจากการมี ‘มากชู้หลายผัว’  ในพุทธศาสนา ก็มีภิกษุณีที่อดีตเป็นโสเภณีเช่นกัน นอกจากนี้ในสมัยโบราณยังยกย่องโสเภณีเป็น ‘หญิงงามเมือง’ เป็นอาชีพที่มีเกียรติ และมีศักดิ์ศรีในสังคม แต่ในปัจจุบันอาชีพนี้เป็นอาชีพที่ผิดกฎหมาย และกลายเป็นแหล่งทำเงินสำหรับกลุ่มอิทธิพลบางกลุ่ม
          ในขณะที่โสเภณีเป็นอาชีพผิดกฎหมาย แต่รัฐกลับปล่อยให้มีการเปิดสถานค้าประเวณีกันมากมายนั้น ย่อมเป็นเพราะผู้ประกอบอาชีพต้อง ‘ส่งส่วย’ แก่ผู้รักษากฎหมายในระดับต่าง ๆ เป็นการสร้างอาชีพและความมั่งคั่งแก่กลุ่มอิทธิพลบางกลุ่มที่ประกอบการค้าประเวณี  กลุ่มอิทธิพลกลุ่มนี้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องย่อมขยายอิทธิพลกว้างขวางไปได้เรื่อย ด้วยเงินจำนวนมหาศาลจากการลอบประกอบอาชีพที่ผิดกฎหมายนี้ ย่อมทำให้สุจริตชนถูกเบียดเบียนหรือไม่สามารถแข่งขันได้อย่างเสรี
          ในทางตรงกันข้ามหากสามารถทำให้อาชีพนี้ถูกกฎหมาย ก็จะเป็นการทะลายขุมทรัพย์ ‘ตัดท่อน้ำเลี้ยง’ ของเหล่าผู้มีอิทธิพล ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการอย่างครบวงจร ช่วยให้ผู้ประกอบอาชีพโสเภณีมีรายได้มากขึ้น ไม่ถูกขูดรีดโดยผู้มีอิทธิพล รัฐมีรายได้จากภาษีอากรในการให้การศึกษาประชาชนในเรื่องนี้ และนำเงินมาพัฒนาประเทศได้มากขึ้น สุจริตชนไม่ถูกรังแกจากผู้มีอิทธิพล ผู้บริโภคได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย และสวัสดิภาพสังคมของประชาชนทั่วไปจะดีขึ้น และศีลธรรมจรรยาของประชาชนทั่วไปก็จะมีความมั่นคงมากขึ้นเช่นกัน
          การเปิดให้โสเภณีเป็นอาชีพที่ถูกต้องตามกฎหมาย จะไม่ยิ่งส่งเสริมให้อาชีพนี้ระบาด เพราะในปัจจุบันก็มีสถานค้าประเวณีอยู่ทั่วไปอยู่แล้ว แต่การที่ต้อง ‘ส่งส่วย’ หรือ ‘เสียค่าคุ้มครอง’ เช่นในปัจจุบันต่างหากที่ผู้ประกอบอาชีพนี้ต้องทำงานหนักมากขึ้นเพื่อผลิตและส่งต่อเงินนอกระบบเหล่านี้ แต่หากอาชีพนี้ถูกกฎหมาย และได้รับการคุ้มครองที่ดี อาจยิ่งช่วยจำกัดการประกอบอาชีพที่ขาดความรับผิดชอบ กลายเป็นอาชีพที่เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ

          สังคมจะยิ่งสงบสุขมากขึ้น เพราะ ‘ซาตาน’ ไม่อาจอยู่ในที่สว่าง มาช่วยกันรณรงค์ให้โสเภณีเป็นอาชีพที่ถูกต้องตามกฎหมายกันเถอะ

อ้างอิง
จรูญ วรรธนะสิน. โสเภณี อาชีพที่เก่าแก่ที่สุดในโลก http://www.tuneingarden.com/work/b-04sn08.shtml
20 Minutes Online. Qui sont les clients des prostitutes? http://www.20min.ch/ro/news/vaud/story/15213957
What Does Jesus Think About Prostitution? http://whatdoesgodthinkaboutprostitution.blogspot.com
Prostitution in Europe. http://en.wikipedia.org/wiki/Prostitution_in_Europe
Prostitution. http://en.wikipedia.org/wiki/Prostitution

Area Trebs
 
10 ถ.นนทรี เขต.ยานนาวา, กรุงเทพมหานคร 10120 Tel.66.2295.3171 Fax. 66.2295 1154 Email: info@thaiappraisal.org; สถานที่ตั้ง: แผนที่