ศักยภาพในการซื้อบ้านในเมืองไทยของคนไทยในสหรัฐอเมริกา
(VAT NEWS 4/1999)
ในช่วงวันที่ 4-18 สิงหาคม 2542 กรมส่งเสริมการส่งออกได้นำโครงการที่อยู่อาศัยแนะนำแก่คนไทยในชิคาโก นิวยอร์ค และลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้เขียนได้ร่วมเดินทางไปด้วยและได้ทำแบบสอบถามสัมภาษณ์คนไทยในสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับการซื้อบ้าน มีข้อค้นพบดังนี้:
เกี่ยวกับคนไทยในสหรัฐอเมริกา
กลุ่มคนไทยที่พบส่วนใหญ่เป็นคนวัยกลางคน (เฉลี่ย 49 ปี) อยู่สหรัฐอเมริกามา 23 ปี หรือเกือบครึ่งชีวิต ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพที่จะซื้อบ้าน คนกลุ่มนี้เป็นนักวิชาชีพเป็นหลัก มีรายได้ครอบครัวเดือนละ 285,050 บาท สำหรับรายละเอียดอาชีพคนไทยได้แก่ ขับรถ, แคชเชียร์, เจ้าของร้านอาหารและอื่นๆ, ช่างทุกประเภท, เซลล์แมน, ดูแลผู้สูงอายุ, นักบัญชี., นักวิเคราะห์-วิจัย, นักหนังสือพิมพ์, นักออกแบบ, นายหน้า, บุรุษไปรษณีย์, โปรแกรเมอร์, พยาบาล, แพทย์, แม่ครัว, รับราชการ, วิศวกร ฯลฯ
ครอบครัวคนไทยส่วนใหญ่ถึง 77% ได้ซื้อบ้านในสหรัฐอเมริกาไว้แล้ว แสดงว่าได้ "ตั้งรกราก" ไว้ระดับหนึ่งแล้ว
1: ข้อค้นพบทั่วไป - ครอบครัวคนไทยในสหรัฐอเมริกา
รายละเอียดผู้ให้สัมภาษณ์ทั่วไป: อาชีพ |
ลักษณะอาชีพ |
เปอร์เซ็นต์ |
รายได้ |
พนง. ทั่วไปกิจการเอกชน |
28% |
214,572 |
ข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ |
8% |
282,639 |
เจ้าของกิจการ |
14% |
671,326 |
นักวิชาชีพเอกชน/รัฐบาล |
32% |
257,643 |
เกษียณ/ตกงาน/แม่บ้าน |
18% |
142,274 |
เฉลี่ยรายได้/ค.ค./ด. (บ) (ใช้ 37 บ=US$1) |
|
285,050 |
การซื้อบ้านในประเทศสหรัฐอเมริกา |
ซื้อแล้วหรือยังไม่ได้ซื้อ |
เปอร์เซ็นต์ |
รายได้ |
ซื้อแล้ว |
77% |
331,972 |
ยังไม่ได้ซื้อ |
23% |
128,644 |
จะกลับมาตั้งถิ่นฐานในไทยหรือไม่
คนไทยราวสองในสามที่ย้ายไปอยู่สหรัฐอเมริกา ไม่คิดย้ายกลับมาตั้งถิ่นฐานในประเทศไทยอีกแล้ว และที่คิดจะกลับภายใน 5 ปีนับจากนี้มีราว 19.2% นอกนั้นอีกราว 15.4% อาจจะกลับในอีกประมาณ 10 ปีข้างหน้า ซึ่งอาจยังไม่แน่นอนนัก อาจกล่าวได้ว่า กลุ่มเป้าหมายของผู้จะซื้อบ้านในประเทศไทยคือกลุ่มที่คิดจะกลับมาตั้งถิ่นฐานในประเทศไทย ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผู้ที่จะเกษียณอายุ
2: การซื้อบ้านและการกลับไปตั้งถิ่นฐานในประเทศไทย |
ความเห็นที่จะกลับ |
การซื้อบ้านในประเทศไทย |
มาตั้งถิ่นฐานใน |
จะซื้อใน |
อาจซื้อใน |
ไม่ซื้อ |
รวม |
ประเทศไทย |
ปี 2544 |
ปี 44-48 |
ในไทย |
|
จะกลับไทยแน่นอน |
7.7% |
6.4% |
5.1% |
19.2% |
อาจกลับ >10 ปี |
- |
5.1% |
10.3% |
15.4% |
ไม่กลับมาไทยแล้ว |
10.3% |
- |
55.1% |
65.4% |
รวมทั้งหมด |
17.9% |
11.5% |
70.5% |
100.0% |
การที่สหรัฐอเมริกามีสวัสดิการและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากกว่าไทย รวมทั้งเมื่อคนไทยได้สัญชาติอเมริกัน ได้ซื้อบ้านและมีลูกหลานเกิดในสหรัฐอเมริกา คนเหล่านี้ส่วนใหญ่จึงไม่หันหลังกลับมาตั้งรกรากในไทยอีก ในทางตรงกันข้าม อาจมีคนไทยที่เพิ่งย้ายไปอยู่ประเทศนี้ หรืออายุน้อยกว่ากลุ่มที่สำรวจนี้ และยังตั้งใจจะกลับไทย แต่ยังไม่มีฐานะเพียงพอ ซึ่งก็ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของการขายบ้านแต่อย่างใด
การซื้อบ้านในประเทศไทย
คนไทยในสหรัฐอเมริกาส่วนใหญ่ (70.5%) ไม่คิดซื้อบ้านในประเทศไทย กลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนที่สุดคือกลุ่มที่คิดจะกลับประเทศไทยและจะซื้อบ้านภายในปี 2543 นี้ ซึ่งมีอยู่ราว 7.7% อย่างไรก็ตามมีคนไทยที่แม้ไม่คิดกลับมาตั้งรกรากในไทยแต่ก็จะซื้อบ้านไปเพื่อการลงทุนและพักผ่อนภายในปี 2543 อีกถึง 10.3%
ผู้ที่สนใจซื้อบ้าน ส่วนใหญ่ 70% ต้องการซื้อบ้านเดี่ยว 22% เป็นห้องชุด และอีก 9% เป็นที่ดินจัดสรร มีวัตถุประสงค์ในการซื้อ เพื่ออยู่อาศัยเองและเพื่อการพักผ่อนในสัดส่วนเท่ากันคือ 39% และส่วนใหญ่ (59%) จะซื้อในเขต กทม.และปริมณฑล ที่เหลือต้องการซื้อติดริมทะเล ชนบทป่าเขา และอื่น ๆ
ประมาณการปริมาณซื้อ
คาดว่าจะมีคนไทยในสหรัฐอเมริกาซื้อบ้านในไทยภายในปี 2543 ประมาณ 7,692 หน่วย รวมเป็นเงิน 20,154 ล้านบาท (พิจารณาเฉพาะกลุ่มที่ประสงค์จะกลับมาอยู่ในไทยและจะซื้อบ้านภายในปี 2543 เท่านั้น) แต่หากรวมกลุ่มที่จะซื้อแต่ไม่กลับมาตั้งรกรากในไทย (ซื้อเพื่อพักผ่อน ให้ญาติหรืออื่น ๆ) จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 17,949 หน่วย หรือเป็นเงิน 49,704 ล้านบาท โดยสรุปจึงอนุมานว่ามูลค่าที่จะซื้อภายในปี 2543 เป็นเงิน 34,929 ล้านบาท
มูลค่าที่จะมีการซื้อโดยประมาณการนี้ ค่อนข้างน่าสนใจทีเดียว โดยเฉพาะหากพิจารณาจากกำลังซื้อภายในประเทศที่ยังไม่แสดงออกอย่างชัดเจนในขณะนี้
1 |
3: ประมาณการมูลค่าบ้านที่จะมีการซื้อโดยคนไทย |
2 |
สาระ |
ตัวเลข |
หมายเหตุ |
3 |
จำนวนครอบครัวไทย |
100,000 |
ประมาณการ |
4 |
การประมาณการขั้นต่ำ |
|
|
5 |
% ที่กลับไทย/ซื้อบ้านในปี 43 |
7.7% |
ตามตารางที่ 2 |
6 |
จำนวนบ้านที่คาดว่าจะซื้อ |
7,692 |
ข้อ3xข้อ5 |
7 |
ราคาเฉลี่ยที่ว่าจะซื้อ |
2,620,000 |
เฉพาะกลุ่ม,ข้อ5 |
8 |
มูลค่าที่จะซื้อ |
20,153,846,154 |
ข้อ6xข้อ7 |
9 |
การประมาณการที่เป็นไปได้สูงสุด |
|
|
10 |
% รวมที่จะซื้อภายในปี 43 |
17.9% |
ตามตารางที่ 2 |
11 |
จำนวนบ้านที่คาดว่าจะซื้อ |
17,949 |
ข้อ 3 x ข้อ10 |
12 |
ราคาเฉลี่ยที่คาดว่าจะซื้อ |
2,769,231 |
บางกลุ่ม,ข้อ10 |
13 |
มูลค่ารวมทั้งหมด |
49,704,146,154 |
ข้อ11 x ข้อ12 |
14 |
ประมาณการรวม |
34,928,996,154 |
(ข้อ8+ข้อ13)/2 |
ข้อคิดในการทำการตลาด
การที่ขณะนี้ภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาดีกว่าไทยมาก ทำให้กำลังซื้อของคนไทยในประเทศนี้เพิ่มขึ้น ประกอบกับราคาบ้านในไทยลดลงหรือไม่เพิ่มขึ้น จึงเป็นเงื่อนไขสำคัญในการส่งเสริมให้คนไทยในต่างแดนซื้อบ้านในไทย โดยเฉพาะกลุ่มที่กำลังจะกลับไทย ซึ่งคนกลุ่มนี้มีจำนวนมากที่สามารถซื้อเงินสดได้ แต่บางส่วนก็ขาดกำลังซื้อ แม้มีรายได้สูงในขณะนี้ เพราะ "บาดเจ็บ" จากพิษจากการลดค่าเงินบาท ด้วยก่อนหน้านี้ได้นำเงินมาฝากในไทยช่วงดอกเบี้ยแพง
ที่ผ่านมาได้เกิดภาพพจน์เสียหายที่คนไทยในต่างแดนถูกหลอกลวงในการซื้อบ้าน ดังนั้นหากทางราชการโดยกรมส่งเสริมการส่งออกและสมาคมอสังหาริมทรัพย์ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบและจัดการขายบ้านเช่นนี้ จะสร้างความเชื่อได้มากขึ้น และความเชื่อถือที่แท้จริงไม่ใช่ลำพังการที่โครงการจัดสรรที่นำไปขายเป็นโครงการที่ได้รับอนุญาตจัดสรรเท่านั้น ยังต้องมีมาตรการคุ้มครองผู้ซื้อที่เชื่อถือได้และมีประสิทธิภาพในทันทีด้วย
คนไทยในสหรัฐอเมริกาทราบดีว่า ประเทศไทยกำลังประสบปัญหา ดังนั้นจึงคาดหวังว่าราคาบ้านจะถูก โดยหากมีบ้านหลุดจำนองหรือบ้านประมูลราคาถูกจะช่วยดึงดูดความสนใจได้มากขึ้น การนี้จะช่วยให้สามารถขายสินค้าบ้านนำเงินเข้าประเทศไทย แต่การนี้อาจไม่เป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการเฉพาะรายโดยตรง
อุปสรรคในการซื้อประการหนึ่งก็คือ คนไทยส่วนมากถือสองสัญชาติ แต่การนี้ไม่เป็นที่ยอมรับของราชการไทย การจัดทำนิติกรรมสัญญาต่าง ๆ จึงอาจมีปัญหา หรืออาจถูกกลั่นแกล้ง รบกวนจากผู้แสวงหาผลประโยชน์ได้
น่าจะรีบดำเนินการขาย เปิดช่องทางการขาย และเสนอสินค้าให้เลือกได้อย่างหลากหลายสำหรับคนไทยในสหรัฐอเมริกาภายในปี 2543 ด้วยเป็นไปได้ว่าในอนาคตเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาอาจตกต่ำลง ทำให้กำลังซื้อลดน้อยลงได้
ที่ผ่านมามีโครงการจัดสรรบางแห่ง ส่งพนักงานขายไปประจำอยู่สหรัฐอเมริกาเป็นเวลานาน ซึ่งประสบความสำเร็จได้ดีพอสมควร ดังนั้นนี่อาจเป็นทางเลือกหนึ่ง หรืออาจขอให้สถานกงศุลหรือสำนักงานการค้าไทยในแต่ละเมืองเป็นศูนย์กลางติดต่อเพื่อการซื้อขายบ้านในประเทศไทย จะเป็นการดีเช่นกัน
การตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้คนไทยในต่างประเทศได้ซื้อหน่วยลงทุนเพื่อหาดอกผลและพยุงฐานะตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย อาจเป็นทางเลือกที่น่าพิจารณาของรัฐบาลได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตามคนไทยส่วนหนึ่งในสหรัฐอเมริกา หวั่นวิตกว่ารัฐบาลไทย จะ "เอาไม่อยู่" ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและทำให้ไทย "ลงเหว" ไปกว่านี้ ซึ่งถือเป็นภาวะเชิงลบในการบั่นทอนความตั้งใจซื้อบ้านของคนไทยในต่างแดน
ดร.โสภณ พรโชคชัย VAT News 4/2542 ตุลาคม-ธันวาคม 2542 หน้า 10 |