ประเมินค่าทรัพย์สินให้เป็นธรรมก่อนการเวนคืนเพื่อพัฒนาชาติ |
|
|
รางวัลชมเชย ระดับอุดมศึกษา
|
|
ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ปี พ.ศ.๒๕๓๐ มาตรา ๔ ได้ให้ความหมายของคำว่าเวนคืนไว้ว่า เวนคืนหมายความว่าบังคับเวนคืนที่ดิน หรืออสังหาริมทรัพย์อย่างอื่นตามเงื่อนไขแห่งพระราชบัญญัตินี้ และในหมวดที่ ๑ ว่าด้วยการเวนคืนสังหาริมทรัพย์ มาตรา ๕ กล่าวไว้ว่า เมื่อรัฐมีความจำเป็นที่จะต้องได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์เพื่อกิจการใดๆอันจำเป็น เพื่อการอันเป็นสาธารณูปโภค หรือการอันจำเป็นในการป้องกันประเทศ หรือการได้มาซึ่งทรัพยากรธรรมชาติ หรือเพื่อการผังเมือง หรือเพื่อพัฒนาการทางการเกษตร หรือการอุตสาหกรรม หรือเพื่อการปฏิรูปที่ดิน หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะอย่างอื่น
การประเมินค่าทรัพย์สินตามที่พระราชบัญญัติ ได้กำหนดไว้นั้น หากรัฐต้องการที่จะเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อประโยชน์อย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อการอันเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน เป็นต้นว่าการเวนคืนเพื่อการสร้างเขื่อนกักเก็บน้ำและผลิตกระแสไฟฟ้า คลองชลประทานเพื่อการเกษตร ถนนหนทางเพื่อความสะดวกในการคมนาคม สนามบิน พื้นที่ทหารเพื่อการรักษาความมั่นคงของชาติ หรือสาธารณูปโภคอันเกิดประโยชน์ต่อประชาชนส่วนใหญ่แล้ว เป็นที่แน่นอนว่าจำเป็นจะต้องส่งผลกระทบต่อประชาชนที่มีอสังหาริมทรัพย์ในเขตพื้นที่นั้น แต่เมื่อความจำเป็นต้องสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาให้เกิดคุณค่าอย่างสูงสุดต่อแผ่นดินและต่อสาธารณชนแล้ว บุคคลควรพึงต้องเสียสละประโยชน์ส่วนน้อยของตน แต่อย่างไรก็ตามภาครัฐก็ย่อมเล็งเห็นซึ่งความเดือดร้อนและต้องชดใช้ความเสียหายอันเกิดจากผลกระทบแห่งการเวนคืนนั้นตามสมควรและชอบด้วยกฎหมาย
ในมาตรา ๑๘ ของพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ปี พ.ศ.๒๕๓๐ ได้กำหนดผู้ที่ต้องได้รับค่าทดแทน ความโดยรวมว่า ต้องเป็นเจ้าของผู้ครอบครองที่ดินโดยชอบด้วยกฎหมาย เป็นเจ้าของโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างที่รื้อถอนมิได้ เป็นผู้เช่าที่ดิน โรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในที่ดินเวนคืน เป็นเจ้าของต้นไม้ที่ยืนต้นในที่ดิน เป็นเจ้าของโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างอื่นที่รื้อถอนได้ และเป็นผู้เสียสิทธิในการใช้ทาง ในการอื่นที่รัฐได้ดำเนินการผ่านยังที่ดินต้องเวนคืนเช่นวางสายโทรศัพท์ ท่อระบายน้ำ สายไฟ เป็นต้น
จากประมวลกฎหมายที่ยกมาดังกล่าวผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเวนคืนทรัพย์สินอยู่ด้วยกันสองฝ่ายคือหน่วยงานของรัฐและประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเวนคืน สิ่งที่จะก่อให้เกิดความเป็นธรรมในการประเมินค่าทรัพย์สินที่ ทั้งสองฝ่ายต้องยึดเป็นหัวใจหลักในการยึดเหนี่ยวใจคือคุณธรรมที่ว่าความซื่อสัตย์สุจริต ดังจะขออัญเชิญกระแสพระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ๒๓ พฤษภาคม ๒๔๙๖ ความว่า ....ข้าพเจ้าใคร่ขอให้ท่านทั้งหลายจงมั่นอยู่ในความซื่อสัตย์สุจริตถือเอาประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง เพราะคุณธรรมอันนี้เป็นมูลฐานอันสำคัญที่จะยังความเจริญ และความเป็นปึกแผ่นแก่สังคม เป็นบ่อเกิดแห่งความสามัคคีกลมเกลียว ความซื่อสัตย์ที่ว่านี้ หมายถึงความสุจริต ซื่อตรงต่อหน้าที่การงาน ต่อตนเองและต่อผู้อื่นที่เกี่ยวข้อง มีเจตนาบริสุทธิ์ ไม่เอารัดเอาเปรียบ สำหรับท่านที่ใช้วิชากฎหมาย ย่อมกินความถึงการรักษาความเป็นธรรม ไม่บิดเบือนความหมายของตัวบทกฎหมาย เพื่อประโยชน์ของตนเองด้วย ความซื่อสัตย์สุจริตจะเป็นเสมือนหนึ่งเกราะคุ้มภัยแก่ท่านตลอดไป ดังบทพระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ว่า สุจริตคือเกราะบัง ศาสตร์พ้อง ...
จากกระแสพระราชดำรัสที่อัญเชิญมาจะเห็นได้ว่าหากการประเมินค่าทรัพย์สินนั้นทั้งเจ้าหน้าที่ของภาครัฐและผู้ถูกเวนคืนต้องประกอบด้วยความสัตย์สุจริตเป็นที่ตั้ง หากเจ้าหน้าที่ของรัฐขาดคุณธรรมความซื่อสัตย์สุจริตแล้ว ความอยุติธรรมย่อมเกิดขึ้นแก่การประเมินคุณค่าของทรัพย์สินเป็นแน่นอน เป็นต้นว่าทรัพย์สินนั้นมีมูลค่ามากหากแต่ประเมินค่าให้น้อยกว่าความเป็นจริงเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางมิชอบโดยใช้อำนาจหน้าที่ของตนมาปฏิบัติต่อการประเมินค่าก็ดี หรือทรัพย์สินมีค่าน้อยแต่กลับประเมินค่ามากโดยสมรู้ร่วมคิดกับเจ้าของทรัพย์เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันเป็นต้น การประเมินค่าก็ย่อมเกิดผลเสียหายให้แก่ประเทศชาติอย่างร้ายแรง การปฏิบัติหน้าที่ของภาครัฐจึงต้องยึดมั่นในความถูกต้องเป็นหลัก การใช้กฎหมายจำเป็นจะต้องประกอบด้วยคุณธรรม ฉะนั้นในส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐต้องเป็นผู้มีความซื่อสัตย์สุจริตอย่างสูงสุด หากแม้ขาดคุณธรรมนี้แล้วฝ่ายผู้ที่เสียหายจากการประเมินค่าทรัพย์สินก็ย่อมได้รับความเดือดร้อน เกิดความไม่พอใจจนกลายเป็นเหตุให้เกิดการฟ้องร้องเรียกร้องสิทธิอันพึงมีพึงได้แล้ว การประค่าทรัพย์สินก็จะก่อให้เกิดความเสียหาย ส่งผลกระทบต่อภาครัฐต้องทำให้การดำเนินการล่าช้าส่งผลเสียต่อการพัฒนาประเทศชาติ และที่สำคัญที่สุดคือต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงของหน่วยงาน ขาดการไว้วางใจของคนทั่วไป
ในส่วนของฝ่ายประชาชนหรือผู้ที่เสียหายจากการเวนคืนทรัพย์สินนั้น ก็ต้องจำเป็นต้องประกอบด้วยคุณธรรมข้อแห่งการเสียสละเป็นที่ตั้ง ก็เป็นเรื่องปกติของผู้เสียหายย่อมเสียดายในทรัพย์สินนั้น แต่หากเล็งเห็นอันประโยชน์ที่เกิดจากการเวนคืนในภายภาคหน้าแล้ว ผู้ถูกเวนคืนย่อมเกิดความภาคภูมิใจว่าได้เสียสละประโยชน์สุขส่วนตนเพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติอย่างใหญ่หลวง แม้ว่าคุณค่าของทรัพย์ที่สูญเสียไปนั้นจะมีค่าสูงกว่าค่าทดแทนที่ได้รับ ซึ่งทรัพย์สินบางอย่างมิอาจที่จะประเมินค่าออกมาในรูปของทรัพย์สินได้ หากแต่มากด้วยคุณค่าทางจิตใจของผู้ถูกเวนคืน แต่หากความเสียสละประโยชน์ส่วนตนนี้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมแล้วความภาคภูมิใจนั้นก็ย่อมเกิดแก่ผู้ถูกเวนคืนได้และไม่ก่อให้เกิดผลกระทบอื่นตามมาแน่นอน จึงขออัญเชิญกระแสพระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๑๐ ความว่า ...ความเสียสละและช่วยเหลือกันที่ประชาชนทั้งชาติได้แสดงให้ปรากฏนั้น เป็นหลักประกันความมั่นคงของบ้านเมืองของเราอย่างแท้จริง...
ในส่วนหนึ่งของผู้ถูกเวนคืนที่ต้องยึดมั่นในการปฏิบัติเช่นเดียวกับผู้มีหน้าที่ประเมินค่าทรัพย์สินนั้นคือคุณธรรมในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต การดำเนินงานประเมินทรัพย์สินของผู้ถูกเวนคืนนั้นแม้บางครั้งเจ้าหน้าที่รัฐกระทำด้วยความซื่อสัตย์สุจริตแล้ว แต่ยังมีผู้ที่มากด้วยจิตละโมบในทรัพย์เกินกว่าสิทธิที่ตนพึงได้ เป็นต้นว่าการเข้ายึดครองพื้นที่สาธารณะหักร้างถางพงเพื่ออ้างสิทธิเป็นของตนเพื่อเรียกร้องสิทธิต่อภาครัฐ บางรายก็เร่งซื้อต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่มาปลูกในพื้นที่ตนซึ่งเดิมนั้นไม่ได้ปลูกเพื่อเพิ่มมูลค่าของการประเมินค่าให้สูงขึ้น หรือการร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของรัฐในการทุจริตโดยการประเมินค่าทรัพย์สินที่ไม่เป็นไปตามความจริงเพื่อประโยชน์ร่วมกันเป็นต้น เช่นนี้แล้วการประเมินค่าทางทรัพย์สินอันเป็นธรรมเพื่อประโยชน์ของชาติย่อมเกิดขึ้นไม่ได้ หากแม้แต่พลเมืองในชาติยังขาดความเสียสละและซื่อสัตย์ต่อการพัฒนาชาติบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้า ประเทศชาติ ก็ไม่อาจจะก้าวหน้าไปได้อย่างแน่นอน สมดังกระแสพระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๔ ธันวาคม ๒๕๔๑ ความว่า ...ถ้าคนเราพอใจในความต้องการ ก็มีความโลภน้อย เมื่อมีความโลภน้อยก็เบียดเบียนคนอื่นน้อย ...
การดำเนินการประเมินค่าทรัพย์สินให้เป็นธรรมนั้น เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของหน่วยงานรัฐที่ต้องดำเนินการต่อประชาชนผู้เป็นเจ้าของทรัพย์นั้น จึงจำเป็นจะต้องดำเนินการด้วยความมีคุณธรรมเพื่อให้การพัฒนาชาติ บ้านเมืองเจริญก้าวหน้าไปได้ด้วยความเป็นปกติและควรเป็น หากการพัฒนาสะดุดลงเหตุด้วยเพราะบุคคลคนที่มุ่งหวังเพียงประโยชน์อันน้อยนิดแล้ว ก็ย่อมเกิดความเสียหายอันใหญ่หลวงต่อการพัฒนาของชาติ แล้วเช่นนี้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจำเป็นต้องตระหนักในความสำคัญอันเกิดแก่ชาติบ้านเมืองเป็นหลักและเทิดไว้เหนือประโยชน์อื่นใด |
|
ประเมินค่า ด้วยคุณค่า หน้าที่รัฐ |
ทรัพย์สิน จัดให้สมควร ล้วนหลักฐาน |
ให้เป็นธรรม ด้วยคุณธรรม นำดวงมาน |
ก่อนการ ตัดสินใจ ให้มวลชน |
เวนคืน ทรัพย์นับคณา มาเพื่อชาติ |
เพื่อ รัฐราษฎร์ ประโยชน์ยิ่ง สิ่งนำผล |
พัฒนา ให้ก้าวไกล ไทยสากล |
ชาติ ของตน เจริญล้ำ ตามครรลอง |
|
................................................................. |
|
|
|