ประเมินมูลค่าบ้านให้ถ้วนถี่ก่อนมีการซื้อ-ขาย
นางสาว สุธิญา พูนเอียด
รางวัลชนะเลิศ ระดับมัธยมศึกษา
ท่ามกลางสังคม
ณ เวลานี้ ที่มีแต่ความสับสน ใครต่อใครจึงต้องการสิ่งตอบสนองความต้องการให้ชีวิตเปี่ยมไปด้วยความสมบูรณ์ทั้งด้านกายภาพและชีวภาพ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนึ่งในปัจจัยสี่ ที่อยู่อาศัย
ที่เรียกว่า บ้าน ย่อมมีความสำคัญ
เพราะทุกคนต่างต้องสัมผัส ใช้ชีวิตภายในบ้าน
ซึ่งรากฐานของความเป็นคนแห่งนี้ต้องใช้ความพยายามอย่างมากของคนหนึ่งคนเก็บหอมรอมริบทั้งชีวิต
เพื่อแสวงหา ก่อสร้าง และมีกรรมสิทธิ์ ความจำเป็นของการ ประเมินมูลค่าบ้านให้ถ้วนถี่ก่อนมีการซื้อ-ขาย จึงเกิดขึ้นพร้อมกับการประมาณค่าที่ควรจะเป็นของบ้านให้เหมาะสม
เที่ยงตรง รู้เท่าทันการเอารัดเอาเปรียบ
ไม่ให้นำไปสู่การเสียเงิน เสียเวลา และเสียใจ
บ้าน
อสังหาริมทรัพย์ที่มีความเกี่ยวข้องกับกรรมสิทธิ์อันพึงมีพึงได้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
ซึ่งก่อให้เกิดผลผูกพันทางกฎหมาย โดยต้องมีความรู้เกี่ยวกับบ้านว่ามีลักษณะเช่นไร
ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ อาคารชุด
ซึ่งแต่ละประเภทล้วนมีลักษณะเฉพาะ จะเห็นได้ว่า
บ้านหลังเล็ก ๆ ในโครงการที่ดีย่อมจะมีคุณค่ามากกว่าบ้านแบบเดียวกันในหมู่บ้านที่มีคุณภาพต่ำกว่า
ดังนั้นเพื่อป้องกันการซื้อ-ขายบ้านผิดพลาด
จึงต้องศึกษาข้อมูล พิจารณาและตัดสินใจอย่างรอบคอบ
ในเมื่อการซื้อ-ขายบ้าน
หมายถึงการโอนกรรมสิทธิ์ โดยมีการประเมินมูลค่าเป็นตัวเชื่อมความถี่ถ้วน
หลักและวิธีที่ต้องรู้ในการประเมินมูลค่า
คือ ต้องสำรวจบ้านก่อน แล้วเข้าถึงแหล่งข้อมูล
สืบหาข้อมูลตลาดมาเปรียบเทียบ จากนั้นจึงมองความคล้าย
ความแตกต่าง วิเคราะห์ปรับแก้ ระหว่างบ้านและข้อมูลทีละอย่าง
แล้วสรุปมูลค่าตลาดที่ประเมิน โดยอาจประเมินแบบวิธีการต้นทุนหรือวิธีการแหลงรายได้เป็นมูลค่า
ที่สำคัญการประเมินต้องมีรายละเอียดที่ดีในการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์
เรื่องเจ้าของ ภาระผูกพัน การปลอมแปลง อายัด
การตรวจสอบความถูกต้องของตำแหน่งที่ดิน ใบอนุญาตก่อสร้าง
รวมทั้งกฎหมายต่าง ๆ ที่มีผลกระทบ ซึ่งจะรังสรรค์
และก่อให้เกิดประโยชน์มหาศาลแก่ผู้ซื้อ-ขายบ้านที่ได้ประเมินมูลค่าบ้านแล้วอย่างคุ้มค่า
แน่นอนว่า
การ ประเมินมูลค่าบ้านให้ถ้วนถี่ก่อนมีการซื้อ-ขาย
สร้างความเหมาะสม ความถูกต้องเรื่องมูลค่าของบ้าน
อันเป็นจุดเริ่มแห่งความต้องการตรงกันของทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะต้องตระหนักในการประเมินมูลค่าของบ้าน
ให้เกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผลสูงสุด กล่าวคือ
เสริมสร้างข้อมูลเพื่อซื้อหรือขายบ้านในราคาและคุณภาพที่ยุติธรรม
ทราบถึงศักยภาพ และขีดจำกัดในมูลค่า หลีกเลี่ยงและป้องกันปัญหาการเอารัดเอาเปรียบ
กำหนดทิศทาง ขนาดของโครงการ ราคาขาย ความต้องการของตลาด
ทำให้ธุรกิจดำเนินไปด้วยดี ป้องกันการขาดทุนจากการถือครองและการเสื่อมราคาของที่ดิน
รู้สถานการณ์ทำเลที่ตั้งว่าจะมีพัฒนาการไปในทิศทางใด
ทั้งสามารถประเมินวงเงินได้เหมาะสม ลดปัญหาหนี้
หากจะใช้บ้านเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน
ไม่เพียงเท่านั้น
การประเมินมูลค่าบ้านยังสนับสนุนการคิด
การวางแผนที่ดีก่อนการทำนิติกรรมซื้อ-ขายกับบุคคลอื่น
ทำให้ผู้คนมีฐานะ สภาพความเป็นอยู่มั่นคง
สั่งสมคุณภาพของตน ครอบครัว สังคม และประเทศให้เจริญ
ควบคู่ไปกับการชี้ให้เห็นถึงระบบความสามารถของคนใน
การรู้จักประเมินอสังหาริมทรัพย์ด้วยตนเอง
เกิดการพัฒนาวิชาการและวิชาชีพการประเมินค่าทรัพย์สิน
นำไปสู่ความโปร่งใส ขจัดกลยุทธ์การโก่งราคา
กลโกงของมิจฉาชีพที่อาจฉวยโอกาสจาก ความไม่รู้
(จัก) ประเมินมูลค่าบ้านให้ถ้วนถี่ก่อนการซื้อ-ขาย
เพื่อให้ชุมชนรากหญ้าสู่สังคมรากแก้วแห่งชาติไทยใสสะอาด
โดยผู้ซื้อ-ขายต้องมีความรู้ความเข้าใจ
มีจิตสำนึกในหน้าที่ว่า ตนต้องทำอะไรก่อนการซื้อ-ขาย
เพี่อบ่งบอกถึง ค่าของคนไทย อันทัดเทียมอารยะประเทศ
ประเมินมูลค่าบ้านให้ถ้วนถี่ก่อนมีการซื้อ-ขาย
นอกจากเป็นพื้นฐานการสร้างความพอใจให้ตรงกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายบ้านในด้านของมูลค่าแล้ว
ยังมีความหมายต่อสังคม และเกี่ยวข้องกับผู้ที่กำลังวางแผนหรือตัดสินใจที่จะซื้อบ้าน
เช่นเดียวกับผู้ที่กำลังจะขายบ้านเพื่อนำทรัพย์ไปใช้ในกิจการต่างๆทำให้ผู้ซื้อ-ขายสามารถประเมินค่าบ้านได้อย่างถูกต้อง
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ทั้งผู้ซื้อ ผู้ขายควรเล็งเห็นคุณค่า
ไม่ละเลยที่จะประเมินมูลค่าบ้าน เพื่อสานสร้างสรรค์กำลังใจ
ความภาคภูมิใจ และรักท้องถิ่น ก่อผลลัพธ์ที่ดีอันพึงมีจากการประเมินมูลค่าบ้านให้ถ้วนถี่อย่างแท้จริง
ประเมิน...อย่างรอบรู้คู่ศึกษา |
มูลค่า...บ้านถูกต้องครองเหตุผล |
ให้ถ้วนถี่...คู่กายใจไม่อับจน |
ก่อนซื้อ-ขาย...ทุกชั้นชนล้นไตร่ตรอง |
เล็งเห็นค่าถิ่นอาศัยปัจจัยสี่ |
เกียรติความดีตัดสินใจไม่เป็นสอง |
ผ่านพ้นภัยชนประเทืองชาติเรืองรอง |
สู่เมืองทอง ประเมินมูลค่า
พัฒนาไทย |
|