สุนทรพจน์
“ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
ช่วยพัฒนาท้องถิ่น พัฒนาประชาธิปไตย พัฒนาชาติ”
เด็กหญิงปัญญดา สูญทุกข์
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์่

เรียนท่านคณะกรรมการ ดิฉันเด็กหญิงปัญญดา สูญทุกข์ จากโรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ รู้สึก เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มากล่าวสุนทรพจน์ เรื่อง ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างช่วยพัฒนาท้องถิ่น พัฒนาประชาธิปไตย พัฒนาชาติ
ทุกท่านคะ ประเทศที่รุ่งเรือง ล้วนเกิดจากจากพลเมืองที่ร่วมใจ ประเทศไทยของเราก็เช่นกัน กว่าจะมีวันที่เรียกว่า “ไทย” ก็ต้องอาศัยความเสียสละของบรรพบุรุษ ดังนั้น ในฐานะไทยคนหนึ่ง เราพึงเสียสละเพื่อประเทศชาติ สถานการณ์ในอดีตขีดเส้นให้บรรพบุรุษสละชีพเพื่อรักษาแผ่นดิน แต่สถานการณ์ในวันนี้เราเพียงยอมสละทรัพย์สิน ท้องถิ่นก็จะพัฒนา และนำพาให้ประเทศเจริญอีกด้วย
ท่ามกลางการแข่งขันเพื่อชิงความได้เปรียบของประเทศต่างๆ เฉกเช่นปัจจุบัน ประเทศที่มีความเจริญก้าวหน้า เป็นประชาธิปไตย มีปัจจัยพื้นฐานสมบูรณ์ ย่อมได้เปรียบประเทศอื่น งบประมาณจึงเป็นสิ่งจำเป็นในการพัฒนาท้องถิ่น พัฒนาประเทศให้มีศักยภาพเพียงพอต่อการแข่งขัน สำหรับประเทศไทยประชาชนส่วนใหญ่กลัวการเสียภาษี รัฐบาลในเกือบทุกยุคทุกสมัยจึงมักไม่กล้าออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเรียกเก็บภาษี เพราะกลัวเสียฐานเสียง จึงไม่แปลกที่ในปัจจุบัน ไทยจะยังคงใช้ฐานราคากลางที่ดินเมื่อกว่า ๓๐ ปีที่แล้ว มาเป็นข้อมูลในการจัดเก็บภาษีบำรุงท้องที่ ซึ่งขัดกับราคาจริงของที่ดินในปัจจุบันมาก และยังให้เจ้าหน้าที่ใช้ดุลยพินิจในการประเมินค่ารายปีเพื่อจัดเก็บภาษีโรงเรือนและที่ดิน ซึ่งอาจไม่เป็นธรรมและขาดมาตรฐานเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังมีการยกเว้นภาษีสำหรับโรงเรือนที่ปิดว่างและเจ้าของใช้เป็นที่อยู่อาศัย ทำให้รัฐสูญเสียรายได้ไปเป็นจำนวนไม่น้อย
ข้อจำกัดและความล้าสมัยของกฎหมายดังกล่าว ทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดเก็บภาษี ได้น้อย งบประมาณจึงไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายและการพัฒนาด้านต่างๆ ในแต่ละปีรัฐต้องอุดหนุนงบประมาณให้ถึงร้อยละ 90 และมักปรากฏการทุจริตเกี่ยวกับการใช้จ่ายงบประมาณอยู่เนืองๆ การผลักดันกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้มีผลบังคับใช้ หลังจากที่มีการนำเสนอและยกร่าง แก้ไขเรื่อยมาตั้งแต่ปี 2518 จนถึงปัจจุบันจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะกฎหมายดังกล่าวจะทำให้ประชาชนรู้สึกเป็นเจ้าของ และช่วยกันตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณมากขึ้น การทุจริตก็จะลดลง และเมื่อประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ชุมชนก็จะเข้มแข็ง อันจะเป็นแรงผลักดันให้ระบอบประชาธิปไตยพัฒนา นำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองของชุมชน และส่งผลต่อการพัฒนาประเทศชาติในอนาคต
ทุกท่านคะ ชาติไทยของเรายั่งยืนอยู่ได้ตราบจนทุกวันนี้ เพราะประชาชนส่วนใหญ่เป็นพลเมืองดี มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม การเสียภาษีที่ดินและปลูกสร้างอย่างเป็นธรรม เพื่อนำรายได้ไปพัฒนาท้องถิ่น จึงเป็นการให้ที่ไม่สูญเปล่า เพราะนอกจากการพัฒนาท้องถิ่นแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการปกป้องผลประโยชน์ของท้องถิ่นอีกด้วย